มีคุณพ่อคนหนึ่งมาร้องเรียนกับทางรายการ "คม ชัด ลึก" ว่า ลูกชายถูกตำรวจยิงได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดเมื่อปี 2553 ผ่านมา 6 ปีแล้วยังไม่ได้รับความเป็นธรรม ที่สำคัญ กระสุนยังฝังอยู่ในร่างกายของลูกชายจนถึงทุกวันนี้นายณัฐวัฒน์ อุฬารพงษ์สุข พ่อของผู้ถูกยิง กล่าวว่า เหตุเกิดเวลาประมาณตีสาม วันที่ 27 กันยายน 2553 แต่ทราบเรื่องในช่วงเช้าว่า ลูกถูกยิงเข้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวังน้อย แต่หมอรักษาไม่ได้ เนื่องจากกระสุนทะลุทวารหนักไปโดนลำไส้ใหญ่ ต้องส่งไปรักษาต่ออีกโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่การรักษาก็ยังไม่สามารถผ่าเอากระสุนออกมาได้ เพราะอันตราย
หลังเกิดเหตุ ขณะที่ลูกชายยังอยู่ในโรงพยาบาล หลังจากออกจากห้องผ่าตัดยังมึนกับยาสลบ ตำรวจ สภ.วังน้อย ก็รีบให้ลูกชายเซ็นรับสารภาพ และพิมพ์นิ้วด้วย หลังจากนั้นก็จับล่ามโซ่ไว้กับขาเตียง เห็นดังนั้นก็รีบหาเงินมาประกันตัว เพื่อให้เขาถอดโซ่ออก ต่อมาก็ส่งฟัอง
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากช่วงกลางดึกวันที่ 26 กันยายน 2553 ทราบว่า ลูกชายกับเพื่อนเข้าไปที่บ้านร้างหลังหนึ่งใน อ.วังน้อย ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่ใกล้กับบ้านของตำรวจนายหนึ่งของ สภ.วังน้อย ขณะนั้นสุนัขหลายตัวที่อยู่บริเวณดังกล่าวเห่าเสียงดังที่บริเวณหน้าบ้าน จึงปีนกำแพงดูว่ามีใครมาหรือไม่ ก็มีเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ซึ่งมั่นใจถูกตำรวจที่บ้านใกล้เคียงยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะนั้นลูกชายพยายามหนีไปแอบในกอหญ้าหลังบ้านของบ้านร้าง จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ตำวจมา ลูกชายก็ออกมา เจ้าหน้าที่ก็นำไปโรงพยาบาล ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณตีสาม วันที่ 27 กันยายน 2553 หลังจากนั้นทางตำรวจบอกว่าพบปืนอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ทนายความถามว่า ใครเป็นผู้แจ้ง ตำรวจก็บอกว่าผู้หวังดี แต่ลบเบอร์โทรศัพท์ทิ้งไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบ ไม่พบรอยนิ้วมือของลูกชายที่ปืน ขณะที่ลูกชายยืนยันว่า ไม่ได้พกอาวุธปืนไปด้วย จึงเชื่อว่ามีการจัดฉาก
ต่อมาตำรวจคนดังกล่าวพยายามบอกว่าป้องกันตัว เพราะลูกชายจะบุกรุกเข้าไปในบ้านของเขา แต่สงสัยว่า บ้านของเขามีสุนัข 8 ตัว อีกทั้งมีปืนอีก ขณะที่ลูกชายมือเปล่า หันหลังให้ อย่างนี้จะเรียกว่าเป็นการป้องกันตัวหรือไม่ ลูกบอกว่า ไม่มีเสียงเตือนใดๆ ทั้งสิ้น
ตำรวจแจ้งข้อหาบุกรุกในยามวิกาลกับลูกชาย ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษา ยกฟ้อง แต่ศาลอุทธรณ์กลับคำพิพากษา จนกระทั่งมาถึงศาลฎีกาก็ยืนตามศาลอุทธรณ์ นั่นคือ ลูกชายถูกพิพากษาปรับ 3,000 บาท จำคุก 3 เดือน แต่ให้รอลงอาญา 1 ปี อย่างไรก็ตาม จากพยานหลักฐานต่างๆ เชื่อว่า ลูกชายไม่ได้บุกรุกบ้านของตำรวจคนดังกล่าวแต่อย่างใด
หลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพากษา ก็ได้แจ้งความดำเนินคดีตำรวจคนดังกล่าวในข้อหาพยายามฆ่า ป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ให้การเท็จ ในเวลาต่อมา อัยการสั่งไม่ฟ้อง จากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป
ที่ผ่านมา ได้ไปร้องเรียนกับหน่วยงานหลายแห่งที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง ทั้งทำเนียบรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ฯลฯ แต่จนถึงขณะนี้คดียังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด