คม-ชัด-ลึก บัตรประชาชนหาย ตกเป็นแพะ 8 คดี!

 จากกรณีมีผู้เสียหายเป็นชายรายหนึ่งทำบัตรประจำตัวประชาชนหาย ร้องขอความช่วยเหลือจากชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เนื่องจากตกเป็นแพะจากการที่ถูกมิจฉาชีพนำไปปลอมลายมือชื่อ เปิดบัญชีเงินฝากและทำบัตรเอทีเอ็มกับธนาคารแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นไปหลอกขายสินค้าออนไลน์ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง ทำให้มีผู้เสียหายจำนวนมากทั่วประเทศแจ้งความดำเนินคดีร่วม 8 คดี ขณะที่ผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนมานานเกือบ 10 ปี ในความผิดที่ไม่ได้ก่อ

สุวรรณ ศรีวิชัย ผู้เสียหาย กล่าวว่า ทราบว่าตกเป็นผู้ต้องหาเมื่อปี 2549 โดยได้รับหมายเรียกจาก สน.ลุมพินี ซึ่งส่งไปที่บ้านที่อยู่ จ.เชียงราย ขณะนั้นทำงานอยู่ที่ จ.ลำปาง เป็นตัวแทนขายเครื่องใช้ไฟฟ้า ได้ยืนยันกับตำรวจว่า เล่นอินเทอร์เน็ตไม่เป็น ใช้คอมพิวเตอร์ไม่เป็น ต่อมาได้รับหมายเรียกจาก สน.ประเวศ สภ.คูคต สภ.สารภี และยังมีหมายเรียกจากโรงพักอื่นๆ อีกหลายแห่ง

ทำบัตรประชาชนหายเมื่อปี 2548 แต่ไม่รู้ว่าใครเก็บได้แล้วนำไปเปิดบัญชี แล้วไปหลอกขายสินค้าทางอินเทอร์เน็ต

ในช่วงหนึ่งมีโอกาสได้พบผู้ที่ถูกคนร้ายหลอกลวง ซึ่งเขายืนยันว่า คนร้ายเป็นคนภาคกลาง เนื่องจากคนร้ายพูดสำเนียงของคนภาคกลาง ไม่ใช่สำเนียงของคนภาคเหนือ

อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวว่า ผู้เสียหายส่งเอกสารต่างๆ มาให้ดู ทั้งหมายเรียกจากโรงพักต่างๆ ประมาณ 8 หมายเรียก คำพิพากษา ซึ่งในคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วว่า ผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพนำบัตรประชาชนไปปลอม และยังมีหลักฐานเป็นคำขอเปิดบัญชีที่ธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นหลักฐานของตำรวจที่นำมาสืบในชั้นศาล คนร้ายรายนี้มีพิรุธตรงที่เขียนวันเดือนปีเกิดไม่ตรงกับผู้เสียหาย และสะกดชื่อก็ผิด เลขบัตรประชาชนก็ผิด เบอร์โทรศัพท์ก็ไม่มีจริง ฯลฯ อีกทั้งมีพยานที่นำสืบได้ว่า ในวันที่มีผู้ไปเปิดบัญชีนั้น ผู้เสียหายทำงานอยู่ที่ลำปาง

พฤติการณ์ของคนร้ายหลังจากเปิดบัญชีเงินฝากแล้วก็ไปประกาศขายสินค้า อาทิ คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก ฯลฯ ทางออนไลน์ ทำให้ประชาชนหลงเชื่อโอนเงินให้คนร้าย แต่ไม่มีการส่งสินค้า

การถูกดำเนินคดีที่ สภ.สารภี จ.เชียงใหม่ นั้น มีการออกหมายจับผู้เสียหายในคดีฉ้อโกง ก่อนจะสั่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการ จนกระทั่งศาลจังหวัดเชียงใหม่ได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ยกฟ้องนายสุวรรณ ศรีวิชัย (ตัวจริง) ว่ามีมิจฉาชีพนำสำเนาบัตรประชาชนไปปลอมลายมือชื่อจริง และมีผู้เสียหายยืนยันว่า คนที่มาหลอกไม่ใช่นายสุวรรณ ศรีวิชัยตัวจริง

ล่าสุดได้พานายสุวรรณไปพบ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) และก็ได้เชิญ ผกก.สน.ลุมพินี และ ผกก.ประเวศ มาพบ ซึ่ง สน.ลุมพินีแจ้งว่า พนักงานสอบสวนสั่งไม่ฟ้อง และพนักงานอัยการก็สั่งไม่ฟ้องเช่นเดียวกัน ส่วน สน.ประเวศแจ้งว่า มีการสั่งยุติคดีไปแล้ว หลังจากสืบสวนสอบสวนแล้วทราบว่านายสุวรรณเป็นแพะ ทั้งนี้ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะแก้ปัญหาให้นายสุวรรณได้ หลังจากต้องตกอยู่ในความทุกข์มานานร่วม 10 ปี

ทั้งนี้ คนร้ายยังไม่ถูกจับกุม และยังไม่รู้ด้วยว่า คนร้ายเป็นใคร เมื่อไปติดต่อกับธนาคารดังกล่าวก็ได้รับคำตอบว่า ไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว