คม-ชัด-ลึก ตร.นอกเครื่องแบบบังคับตรวจปัสสาวะ

จากกรณีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นช่างสักและมีรอยสักตามร่างกาย ได้เดินทางไปซื้อของย่านบ้านหม้อเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จู่ๆ ก็มีตำรวจนอกเครื่องแบบเข้าควบคุมตัวพร้อมจับใส่กุญแจมือ ในช่วงแรกตำรวจจะขอตรวจปัสสาวะตรงนั้น แต่แล้วกลับเปลี่ยนใจนำตัวไปโรงพัก สุดท้ายผลตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด อย่างไรก็ตามเขาก็ถูกแจ้งข้อหาไม่พกบัตรประชาชน การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว ถือว่า เกินกว่าเหตุหรือไม่

จิราวุฒน์ พาพรมพฤกษ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุเกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา โดยตนสวมเสื้อยืด กางเกงขาสั้น ในมือถือสิ่งของที่ซื้อมาเป็นสายไฟและอื่นๆ ตอนแรกชายคนหนึ่งคล้ายเป็นตำรวจ แต่ชุดดำ เหมือนกับตำรวจชุดจู่โจม สวมเสื้อกั๊กมีสกรีนคำว่า POLICE เข้ามาถามว่า บ้านอยู่ไหน ก็ตอบว่า อยู่ร้อยเอ็ด เขาก็ถามอีกว่า เสพหรือเปล่า ก็ตอบว่า เปล่า ไม่ได้เสพ เขาก็บอกว่า เห็นว่ามีลายสัก แต่ผมก็ไม่ได้ถามเขาว่าชื่ออะไร มาจากไหน แต่คิดว่าเขาคงจะเป็นตำรวจ เขาก็ขอตรวจปัสสาวะ ช่วงแรกเขาไม่ได้แสดงตัวหรือแสดงบัตรประจำตัวว่าเป็นตำรวจ

หลังจากนั้นตำรวจคนแรกก็ขอตรวจปัสสาวะ เริ่มแรกก็จะขอตรวจตรงนั้น ก็บอกว่า ไม่มีเวลา รีบไปส่งของ เพราะผมขายของออนไลน์ด้วย เขาก็บอกว่า ไม่เสียเวลามากหรอก แป๊บเดียวเอง แค่ 3 นาที เท่านั้น ไม่ต้องไปโรงพัก ผมก็จะให้ตรวจ ระหว่างที่เดินไปห้องน้ำที่อยู่บริเวณดังกล่าว ผมก็บอกว่า ขอถ่ายรูป แล้วก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เขาก็เปลี่ยนใจ บอกให้ไปตรวจที่โรงพัก ตอนนั้นผมไม่ยอม เพราะจะเสียเวลา จะทำให้ไปส่งของไม่ทัน แล้วบอกว่า ให้ตรวจตรงนี้ เขาก็ไม่ยอม ให้ไปโรงพัก เพราะต้องถ่ายรูปที่โรงพักด้วย จากนั้นเขาก็ล็อกตัว จับใส่กุญแจมือ พาไปโรงพักทันที ขณะนั้นก็พยายามขัดขืน เขาจึงใส่กุญแจมือได้เพียงข้างเดียวคือมือซ้าย ทำให้เกิดบาดแผลที่ข้อมือ นอกจากนี้่ยังมีบาดแผลที่เข่า เพราะถูกจับกดตัวลงกับพื้น ในช่วงนี้มีตำรวจเข้ามาเพิ่มอีก รวมเป็น 3 คน ต่อมามีตำรวจในเครื่องแบบมาที่เกิดเหตุแล้วก็พาไปโรงพัก

คลิปที่ถ่ายไว้ได้นั้น เป็นช่วงที่่ยังไม่ถูกล็อกตัว แต่หลังจากถูกล็อกตัวแล้ว ไม่สามารถถ่ายคลิปได้ สำหรับตำรวจที่แสดงบัตรประจำตัวก็เป็นช่วงที่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายคลิปแล้ว

เมื่อไปถึงก็ถูกตรวจปัสสาวะ ซึ่งผลการตรวจไม่พบสารเสพติด หลังจากนั้นตำรวจนายหนึ่งก็บอกว่า ไม่น่าเลย ว่าจะไม่ตรวจอยู่แล้วเชียวในช่วงที่เกิดเหตุที่บ้านหม้อ ตำรวจขอดูบัตรประชาชน ผมก็บอกว่า บัตรอยู่ในรถ จึงถูกแจ้งข้อหาไม่พกบัตรประชาชน เสียค่าปรับ 100 บาท โดยตำรวจบอกว่า ต้องพกบัตรติดตัว เพราะเป็นบัตรประจำตัวประชาชน

อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุ ได้ไปให้แพทย์ตรวจและขอใบรับรองแพทย์ไว้แล้ว ขณะที่ตำรวจไม่ได้เอ่ยปากขอโทษแต่อย่างใดพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การขอตรวจปัสสาวะ หรือตรวจค้นผู้ใดนั้น มีกฎหมายที่ให้อำนาจตำรวจในการตรวจค้นอยู่แล้ว โดยเฉพาะในกรณีมีเหตุอันควรที่สงสัย ซึ่งทำได้ทั้งตำรวจในเครื่องแบบและนอกเครื่องแบบ ซึ่งตำรวจจะต้องแสดงตนให้ชัดเจนด้วยการแสดงบัตรประจำตัว

ทั้งนี้ ตามกฎหมายแล้ว ไม่ได้ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ตำรวจไปกระทำการที่เกินเลยในเหตุอันควรสงสัย

การตรวจปัสสาวะไม่ได้มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่า จะต้องไปที่ไหน ดังนั้น จะไปตรวจที่โรงพักหรือในที่ที่จับกุมก็ได้ แต่ต้องอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม ไม่เหมือนกับด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ตรวจปัสสาวะตรงนั้นได้เลย


การปฏิเสธไม่ไปโรงพักหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจค้นแล้วไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย ก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ายังมีเหตุอันควรสงสัยหรือไม่