PRIME TIME กับเทพชัย คนเลี้ยงวัว หรือ วัวเลี้ยงคน | ตอนที่ 3/3 | 15-04-60

เจ้า"โคแดงพลังสิงห์เจ้าปัญญา หรือไอ้ทิว" วัวชนตัวเก่งเจ้าของสถิติชนะห้าครั้งรวดจากทีมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาพลาดท่าให้กับ เจ้า "โคโหนดหลังขาวชัยชนะ วัวลูกผสมเชื้อสายกระทิง สังกัดค่าย ทีมการเมืองดังฝั่งอ.หาดใหญ่ท่ามกลางกองเชียร์นับหมื่น
แต่ภาพผ่านทางจอโทรทัศน์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจพอๆ กับการต่อสู้อย่างดุเดือดของเจ้าวัวสองตัวนี้
ตัวเลขเงินเดิมพันที่เปิดเผยวันนั้นสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 24 ล้านบาท แต่เซียนพนันเชื่อว่ามีเงินสะพัดในสนามวัวชนแห่งนี้อีกกว่า 50 ล้านบาท วัวชนก็คงไม่แตกต่างจากนักกีฬา เบื้องหลังของความแข็งแกร่งและความพร้อมในวันที่ลงสนามคือ การฝึกฝนและการได้รับการดูแลเป็นอย่างดี
ทุกๆเช้าตลอด9 ปีที่ผ่านมา "เจ้างูเหลือม" ต้องฝึกซ้อมเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับตัวเองด้วยการเดินและวิ่งป็นระยะทาง 5-10 กิโลเมตร
สาคร พะริกะ เป็นคนเลี้ยงวัวมืออาชีพ และทุกวันต้องออกมาเดินและวิ่งออกกำลังกายพร้อมๆ กับวัวคู่กายและคู่ใจ ตัวนี้ ริมถนนสายหนึ่งใน อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
เจ้างูเหลือม หรือ โคโหนดพิชัยยุทธ วัวหนุ่มวัย 9 ปีมีค่าตัวสูงถึง 4 แสนบาทเจ้างูเหลือมมีประวัติการลงสนามมาแล้ว 8 ครั้ง และ ชนะรวดไม่เคยรู้จักคำว่าแพ้
เจ้างูเหลือมเป็นวัวที่มาจากพ่อพันแม่พันธ์ดี เพราะฉะนั้นจึงมีรูปร่างดี และก็เหมือนนักกีฬาที่ดีที่ต้องได้รับความใส่ใจในเรื่องการฝึกฝน และอาหารเสริม กล้ามเนื้อที่แข็งแกร่งส่วนหนึ่งก็มาจากสารอาหารเพิ่มกล้ามเนื้อที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับวัวชนทุกตัว
ในฐานะวัวชนระดับแนวหน้า เจ้างูเหลือมจึงต้องได้รับการประคบประหงบมากเป็นพิเศษ กองไฟจะถูกสุมให้เกิดความร้อนตลอดคืน ผืนดินที่เยียบย่ำต้องแห้งไม่เฉอะแฉะ กินอาหารต้องเป็นเวลา เวลานอนต้องกางมุ้ง และที่สำคัญที่สุดคือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
สภาพร่างการของวัวชนต้องพร้อมตลอดเวลา และอาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมเป็นสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด แม้แต่ในเวลาที่ออกวิ่งก็ยังต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
สาครมีเหตุผลที่ใส่รองเท้าให้เจ้างูเหลือมเฉพาะสองขาหน้า เพราะ เท้าหน้าใช้แรงกดมากกว่า เท้าหลัง และวัวชนส่วนมากจะเจ็บเท้าหน้า มากกว่าเท้าหลัง
ลีลาและวิธีการฝึกวัวชนของแต่ละค่ายอาจแตกต่างกันไม่นากนัก แต่การลงทุนในเรื่องอาหารเสริมเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความแตกต่าง
ความสามารถและลักษณะเด่นเฉพาะตัวของวัวชนแต่ละตัวเป็นตัวชี้ขาดในสนามได้ เจ้างูเหลือมมีความโดดเด่นจากลีลาการชนแบบเลื้อยมุดไปมาเพื่อรอจังหวะชน จนเป็นที่มาของฉายา เจ้างูเหลือม แต่คนที่จะให้คำตอบได้ดีที่สุดถึงลักษณะวัวชนที่จะก้าวขึ้นมาอยู่ในระดับแชมป์ได้ก็คือคนเลี้ยง
บรรยากาศในสนามวัวชนไม่แตกต่างจากบรรยากาศในสนามมวย เสียงจากพี่เลี้ยงและกองเชียร์ดังระงมตลอดเวลาเพื่อกระตุ้นให้วัวออกลีลา สัญญาณของชัยชนะและความพ่ายแพ้เกิดขึ้นเมื่อตัวใดตัวหนึ่งเริ่มถอยและวิ่งหนี
ในช่วงเวลาที่การชนวัวยังมีภาพของการเป็นวิถีชีวิตของชาวบ้านในภาคใต้ เจ้าของวัวชนส่วนใหญ่เป็น เลี้ยงเองและลงทุนเองทุกอย่าง แต่ในวันนี้ที่การชนวัวได้กลายเป็นธุรกิจและมีเงินเดิมพันจำนวนมหาศาเข้ามาเกี่ยวข้องคนที่เลี้ยงวัวชน และเป็นเจ้าของค่ายวัวชน คือนายทุน และนักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่นแตกต่างกับปัจจุบันนี้ ที่เราพบเห็นกันบ่อย เพราะ
เพราะฉะนั้นจึงไม่น่าประหลาดใจที่เราจะเห็นอดีตนักการเมืองอย่างนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี และคนอื่นๆ ที่มีฐานเสียงในภาคใต้ ปรากฏตัวในสนามวัวชนบ่อยครั้ง หลายคนมีสนามวัวชนของตัวเองด้วยซ้ำ สำหรับนักการเมืองการชนวัวเป็นมากกว่าธุรกิจ แต่ยังเป็นช่องทางการสร้างฐานเสียง
ในเมื่อการชนวัวเป็นธุรกิจใหญ่และมีเงินเดิมพันสูง เจ้าของวัวและค่ายจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะ
เงินเดิมพันของการชนแต่ละครั้งจะสูงต่ำ มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง ประสบการณ์ในชัยชนะของวัวคู่ที่ชน และเงินเดิมพันจะเริ่มตั่งแต่ 5,000 หรือ 10,000 ไปจนถึงหลักแสน และหลักล้าน
เจ้าโคเขางามตัวนี้ อดีตคือวัวในตำนาน ที่สร้างปากฏการชนที่มีเงินเดิมพันไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท จากประวัติชนมาแล้ว 6 ครั้ง ชนะ 4 ครั้ง และแพ้ 2 ครั้ง แต่การแพ้ครั้งล่าสุด ทำให้เจ้าของตัดใจขายให้เป็นพ่อพันธุ์ แต่ด้วยลักษณะการเป็นวัวพันธุ์ดี จึงทำให้เจ้าของคนใหม่ มุ่งมั่น ฝึกฝนทุกรูปแบบ เพื่อหวังให้เจ้าอดีตแชมป์ตัวนี้กลับมาเป็นวัวชนที่สร้างชื่อเสียงอีกครั้ง
ปัจจุบันสนามกีฬาชนวัวที่ถูกต้องตามกฏหมายทั่วประเทศ มีอยู่ประมาณ 28 แห่ง ส่วนใหญ่ก็กระจายอยู่ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้
การชนวัวทุกวันนี้ เดินทางมาไกลมากจากวันที่เคยเป็นเพียงวิถีชีวิตของคนในภาคใต้มาถึงวันที่เป็นธุรกิจมูลค่ามหาศาล
วิถีชีวิต... กีฬา... หรือการพนัน...ดูเหมือนว่าเงินเดิมพันที่สูงมากขึ้นตลอดเวลา กำลังเป็นตัวตัดสินทางเดินของวัวชน