PRIME TIME กับเทพชัย เบื้องหลัง คสช.ถอยนั่งท้ายกระบะ | ตอนที่ 2/3 | 08-04-60
แม้จะมีมาตราการผ่อนปรนออกมาชั่วคราว ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้ประชาชน นั่งท้ายรถกระบะได้ แต่อะไรเป็นสาเหตุให้หัวหน้า คสช. ออกคำสั่งบังคับใช้กฎหมายจราจรของรถยนต์ส่วนบุคคลและรถสาธารณะ ที่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด เบื้องหน้าเบื้องหลังในการออกมาตรการ 44 ในครั้งนี้ คสช. ต้องการอะไร หรือ หวังอะไรมากกว่าในเรื่องความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน
คำสั่ง ของหัวหน้า คสช.ฉบับนี้ มีขึ้นมากว่า 2 สัปดาห์แล้ว แต่มีผลใช้บังคับเป็นวันแรกเมื่อวันที่ 5 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่า ความหวังดีในมาตรการรักษาความปลอดภัย ของ คสช. จะกลายเป็นดาบสองคม โดนกระแสตีกลับ จากประชาชนเกือบทั้งประเทศ
การบังคับใช้มาตรา 44 ห้ามนั่งท้ายรถกระบะ และห้ามนั่งแคป ของรัฐบาล สร้างกระแสในโลกสังคมออนไลน์ที่ลุกขึ้นมาต่อต้านกับคำสั่งดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ทั้งงัดมุมภาพเเละไอเดียประชดประชันหลากหลายรูปแบบ บางคนเเชร์ภาพการสวนสนามของเจ้าหน้าที่รัฐหรือการใช้รถหกล้อบรรทุกเจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติหน้าที่ หากยังยึดกฎหมายเคร่งครัด ตั้งเเต่วันนี้ภาพเเบบนี้คงไม่ได้เห็นกันอีก รวมถึงการออกคลิป ที่แสดงความไม่เห็นด้วยอีกจำนวนมาก
ตลอดของวันที่ 5 เมษายน พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้าคชส.และนายกรัฐมนตรี ตกเป็นจำเลยของสังคม จนในช่วงเย็นของวันเดียวกัน พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต้องออกมาแถลงข่าว เพื่อหยุดกระแสร้อนของสังคม ด้วยการชะลอโครงการนี้ไปก่อนเช่นเดียวกันกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ได้ออกมาปกป้อง พล.อ.ประยุทธฐ ด้วยการยอมรับว่า มาตราการนี้เป็นความคิดของเขา และขออย่าไปด่านายกรัฐมนตรีขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยอมรับว่า รัฐบาลได้ผ่อนปรนการมาตราเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน โดยหลังสงกรานต์ จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือใหม่ เพื่อพิจารณาถึงความเหมาะสมในการออกกฎหมาย เพื่อสอดคล้องกับความเป็นจริงเบื้องหน้าเบื้องหลังของการออกคำสั่งนี้ prime time ได้รับการยืนยันจาก แหล่งข่าวหน่วยงานด้านความมั่นคง ว่า คำสั่งบังคับใช้มาตรา 44 ห้ามนั่งท้ายรถกระบะ และห้ามนั่งแคป มีการหารือในหน่วยงานด้านความมั่นคง โดย พล.อ.ประวิตร มีความเป็นห่วงกับการเสียชีวิตของประชาชนในช่วงเทศกาลสำคัญๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการเสียชีวิตของประชาชนจากเทศกาลต่าง ๆ สูงเป็นอันดับสองของโลกและจากสถิติ และคลิปภาพ ได้รับรายงานจากหลายหน่วยตรงกันว่าในช่วงเทศกาล มีอุบัติเหตุสูงมาก โดยเฉพาะรถกระบะ เพราะขาดวินัยในการขับขี่ ไม่เคารพกติกาในการขับรถเร็ว
แม้จะมีกฎหมายเกี่ยวกับการใช้รถบนท้องถนน ที่กระทรวงมหาดไทย เป็นเจ้าภาพหลักแล้ว เพื่อหามาตรการป้องกันลดอุบัติเหตุการเสียชีวิตของพี่น้องประชาชน ทั้งมาตรการเมาไม่ขับ จับปรับหากเมาและขับ หรือมาตรการยึดรถ รวมถึงการเปิดค่ายทหารเพื่อเป็นที่พักรถ แต่ก็ยังไม่สามารถลดอุบัติบนท้องถนนได้
เหตุผลเหล่านี้ เป็นเหตุให้ พล.อ.ประวิตร ในฐานะที่กำกับดูแลความปลอดภัยของประชาชน เรียกประชุมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง รวมถึงเจ้าภาพอย่างกระทรวงมหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแลกฎหมายเกี่ยวกับการใช้รถบนท้องถนน มาหารือก่อนที่จะมีคำสั่งมาตรา 44 มาบังคับใช้
แหล่งข่าวหน่วยงานด้านความมั่นคง บอกว่า เมื่อประชาชน ไม่เห็นด้วยกับคำสั่งนี้ หน่วยงานด้านความมั่นคง ต้องกลับมาดูรายละเอียดว่า จะออกกหมายบังคับใช้ในรูปแบบใด เพื่อไม่ให้กระทบกับวิถีชีวิตของประชาชน โดยอาจออกเป็นมาตรการตามขั้นตอน มีการเตือนก่อนการบังคับใช้ ที่สำคัญจะมีกฎหมายจำกัดความเร็วในส่วนถนนสายรอง หรือ ถนนสายชนบท ที่มักจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ
แม้ว่า คสช. จะยืดหยุ่นด้วยการถอยหลังเพื่อตั้งหลักอีก 15 วัน หรือ อย่างน้อยช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์ ถึงจะบังคับใช้กฎหมายนี้ แต่ดูเหมือนว่า นี่ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดที่ประชาชนอยากได้ เพราะคำสั่งนี้ส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของประชาชนที่ใช้รถกระบะเป็นยานพาหนะในการประกอบอาชีพ ไม่เพียงแค่ชาวไร่ ชาวนา หรือ ชาวสวน แต่รวมไปถึงอาชีพรับเหมา และอาชีพอื่นๆ ที่ใช้รถกระบะทำมาหากิน
บางที คสช.อาจต้องหันกลับมาฟังเสียงสะท้อนที่เกิดขึ้นอีกครั้ง เพื่อไม่ให้เสียบรรยากาศของรัฐบาล และคสช. ในการเดินหน้าปรองดองเพื่อนำไปสู่การปฏิรูปประเทศในอนาคต