svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

PRIME TIME กับเทพชัย เส้นทาง"โกตี๋" กับขบวนการวิทยุใต้ดินฝั่งลาว | ตอนที่ 1/3 | 25-03-60

27 มีนาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือ "โกตี๋" คือคนที่รัฐบาลไทยต้องการตัวมากที่สุดในขณะนี้จากพ่อค้าขายกางเกงยีนส์ สู่การเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และมาถึงวันที่พร้อมจะใช้ความรุนแรงเพื่อล้มระบบการปกครองและสถาบัน

ถ้ายังมีใครสงสัยว่า วุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ หรือ "โกตี๋" เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของรัฐบาลแค่ไหน คลังแสงขนาดย่อมที่ทางการยึดได้ใน อ.ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ถ้าข้อกล่าวหาของฝ่ายความมั่นคงเป็นจริง โกตี๋และอาวุธเหล่านี้ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของขบวนการที่พร้อมจะใช้ความรุนแรงเพื่อทำให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองถึงแม้โกตี๋จะไม่มีตำแหน่งหรือบทบาทที่เป็นทางการเมืองในขบวนการคนเสื้อแดง แต่ทุกก้าวของโกตี๋ก็ถูกติดตามอย่างใกล้ชิด และถูกเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายของกลุ่มคนที่ยังมีความหวังจะฟื้นอำนาจเก่าที่มีอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร เป็นเงาอยู่ข้างหลัง
นั่นคือคำตอบว่าทำไมโกตี๋จึงเป็นเป้าใหญ่ของฝ่ายความมั่นคง คลังแสงขนาดย่อมที่ถูกค้นพบ อยู่ในบ้านของนายธีรชัย อุดรวิเชียร หรือ"ระพิน" ซึ่งทำหน้าที่เป็นการ์ดประจำตัวของโกตี๋ ในยุคที่โกตี๋ยังโลดแล่นอยู่ในเวทีคนเสื้อแดงในฐานะเจ้าของสถานีวิทยุเรดการ์ดเรดิโอ
หลังหลบนี้ออกนอกประเทศหลังเหตุการณ์ปฏิวัติในปี 2557 โกตี๋ก็ไปปักหลักอยู่ในประเทศลาว และใช้เป็นฐานในการจัดรายการผ่านทางยูทูป ปลุกระดมต่อต้านอำนาจทหารและถึงขั้นโจมตีสถาบัน
ไม่กี่ชั่วโมงหลังการค้นพบอาวุธ โกตี๋ในนาม "สหายหมาน้อย" ก็จัดรายการสดทางยูทู้ปตอบโต้ คสช. ทันที โกตี๋ยอมรับว่า "ระพิน" เป็นมือขวา และถูกส่งตัวมาทำหน้าที่เป็นการ์ดส่วนตัว
คืนต่อมาโกตี๋ ใช้การให้สัมภาษณ์กับ จอม เพชรประดับ ผ่านทาง เว็บไซต์Thaivoicemedia.com กล่าวหา คสช. ว่าอยู่เบื้องหลังจัดฉากการยึดอาวุธสงคราม และตั้งหาวางแผนก่อเหตุร้าย และทำรัายบุคคลสำคัญในประเทศไทย
การให้สัมภาษณ์เว็บไซต์ Thaivoicemedia.com ทำให้บทบาทของจอม เพชรประดับ อดีตนักข่าวและพิธีกรโทรทัศน์ที่ลี้ภัยการเมืองไปอยู่ในสหรัฐอเมริกาถูกจับตามองอีกครั้ง เว็บไซต์นี้จัดทำโดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า RED USA เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้กับคนเสื้อแดงในต่างแดน ที่รวมตัวกันภายใต้ชื่อ "องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย"
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้ก็คืออดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จารุพงศ์ เรืองสุวรณ และอดีตรัฐมนตรีสำนักนายกรัฐมนตรี จักรภพ เพ็ญแข ฐานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และคนที่มีบทบาทสำคัญในการเดินสายพบปะกับกลุ่มคนเสื้อแดงในสหรัฐอเมริกาและยุโรปในนามขององค์กรคือจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ ลูกชายของจารุพงษ์นั่นเอง
นับแต่รัฐประหารในปี 2557 องค์กรเสรีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย ได้ประกาศตัวชัดเจนว่าเป็นองค์กรที่มีแนวทางต่อสู้ของฝ่ายเสื้อแดงในระดับสากล ตามยุทธศาสตร์ที่เรียกว่า "โลกล้อมไทย" ของจักรภพ เพ็ญแข อดีตแกนนำคนเสื้อแดงและผู้ต้องคดีหมิ่นสถาบันกษัตริย์
"จารุพงศ์" มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับอดีตนายกรัฐมนตรี"ทักษิณ ชินวัตร" มากเป็นพิเศษตลอดเส้นทางการรับราชการและการเมือง ไล่ตั้งแต่เป็นปลัดการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ,ปลัดกระทรวงแรงงาน และปลัดกระทรวงยุติธรรม
หลังเกษียณอายุราชการ จารุพงศ์เข้าร่วมงานการเมืองกับทักษิณ สมัยก่อตั้งพรรคพลังประชาชน และต่อมาเป็นพรรคเพื่อไทย จนได้รับแต่งตั้งเป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทย และต่อเป็นหัวหน้าพรรค
ความจงรักภักดีต่อทักษิณของจารุพงษ์ได้รับการตอบแทนจากรัฐบาลยิ่งลักษณ์อย่างต่อเนื่อง จนได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
จารุพงษ์ปฏิเสธคำสั่งให้ไปรายงานตัวของ คสช. มีคำสั่งให้มารายงานหลังการยึดอำนาจ และหลบหนีไปพักอยู่ในกัมพูชา ก่อนจะมุ่งหน้าไปสู่สหรัฐอเมริกา หลังโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คว่าไม่ยอมก้มหัวให้ทหาร และต่อต้านทหารทุกรูปแบบจารุวงศ์ เรืองสุวรรณ ก็เลือกเดินแนวทางเดียวกับพ่อ หลังถูก คสช.สั่งอายัดการทำธุรกรรมทางการเงิน "จารุวงศ์" มีความใกล้ชิดกับขั้วอำนาจเก่ามากพอๆ กัน และเคยถึงเป็นเลขานุการของจักรภพ เพ็ญแข สมัยเป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่ฝ่ายความมั่นคงเชื่อว่าเชื่อมโยงกับโกตี๋เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่เพิ่งจะเกิดขึ้น แต่มีประวัติศาสตร์ย้อนไปตั้งแต่ยุคที่จารุพงษ์เป็นรัฐมนตรีมหาดไทยในรัฐบาลยิ่งลักษณ์
จารุวงศ์ผู้ลูกก็ใกล้ชิดกับโกตี๋อย่างมากจากการทำงานมวลชนคนเสื้อแดงร่วมกัน ทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มคนที่ร่วมกำหนดยุทธศาสตร์การเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงที่ถูกจัดให้เป็น "แดงฮาร์ดคอร์" ที่เน้นการใช้ความรุนแรงขณะที่โกตี๋ส่งเสียงปลุกระดมจากฝั่งลาว "จารุวงศ์" ก็ใช้สหรัฐอเมริกาเป็นฐานในการจัดรายการต่อต้าน คสช. และสถาบัน ผ่านยูทู้ป ในนาม"เย็นลมป่า"และบ่อยครั้งก็วิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์บ้านเมืองของไทยแบบสดๆ ร่วมกับโกตี๋ แนวทางการเมืองของ "เย็นลมป่า" ชัดเจน เป้าหมายคือ "เปลี่ยนระบอบ" ของไทยผ่านการลุกฮือของประชาชนเหมือนที่ครั้งหนึ่งพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยต้องการเห็น
ในสายตาของ คสช. โกตี๋คือตัวแทนของกลุ่มคนเสื้อแดงที่พร้อมจะใช้ความรุนแรงเพื่อสร้างความวุ่นวายทางการเมือง และเชื่อว่าอาวุธสงครามที่ยึดได้เป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุด
ประวัติของโกตี๋ ก่อนเข้าร่วมขบวนการคนเสื้อแดงไม่ชัดเจนมากนัก มีข้อมูลว่าโกตี๋เคยเป็นพ่อค้าขายกางเกงยีนส์ย่านจตุจักร
โกตี๋เริ่มแสดงบทบาททางการเมืองบนท้องถนน ในช่วงการชุมนุมของคาราวานคนจน และกลุ่มคนขับรถแท็กซี่ ที่สวนจตุจักร ในต้นปี 2549 เพื่อปกป้องรัฐบาลทักษิณที่กำลังถูกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมขับไล่หลังรัฐประหารในปีเดียวกัน 2549 โกตี๋กระโดดเข้าร่วมกับขบวนการคนรักทักษิณ กับกลุ่มปทุมธานีรักษ์ประชาธิปไตย ภายใต้การนำของกำนันต้อย' สมบุญ ขุนทองไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอดีต ส.ส.ปทุมธานีของพรรคเพื่อไทย
ผลงานของโกตี๋ ที่เข้าตาคนเสื้อแดงปทุมธานี เกิดขึ้นวันที่ 8 เมษายน 2553 เมื่อกำนันต้อยนำคนเสื้อแดงไปปิดล้อมหน้าสถานีถ่ายทอดสัญญาณดาวเทียมไทยคม ลาดหลุมแก้ว จนมีเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างทหารกับคนเสื้อแดงคนที่อยู่แถวหน้าคนเสื้อแดงเผชิญกับทหารภายใต้การบังคับบัญชาของพล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้บังคับการกรมทหารราบที่11 ขณะนั้นก็คือ โกตี๋ นั่นเอง
ความโดดเด่นของโกตี๋ อยู่ที่ภาพของการเป็น นักเลงบ้านนอก' พูดจาโผงผาง ด้วยภาษาที่ดุดัน ซึ่งแตกต่างจากแกนนำเสื้อแดงที่ถูกเรียกว่าเป็นพวก "แดงทฤษฎีจ๋า"โกตี๋ช่ำชองในการใช้สื่อในการสื่อสารถึงมวลชนด้วยภาษาแบบถึงลูกกึงคน นอกจากเป็นเจ้าของสถานีวิทยุชุมชน "เรดการ์ดเรดิโอ" และเป็นนักจัดรายการเอง โกตี๋ไม่เคยลังเลใจที่จะแสดงความเห็นหรือให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ โดยไม่เกี่ยงว่าสื่อนั้นจะเป็นฝ่ายไหน
แม้แต่สื่อตะวันตกไม่น้อยก็ยังไล่ตามสัมภาษณ์โกตี๋ ในช่วงที่ออกประกาศว่าพร้อมจะใช้กำลังปกป้องรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่กำลังถูกขับไล่โดย กปปส.
ปทุมธานีเป็นดินแดนของของเสื้อแดง เพราะฉะนั้นจึงเป็นพื้นที่ที่มีวิทยุชุมชนคนเสื้อแดงมากมาย และส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตอำเภอลำลูกกา ซึ่งเป็นพื้นทิ่ติดกับกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะย่านดอนเมือง-สายไหม โกตี๋จึงมีความสนิทสนมกับ เก่ง ดอนเมือง' หรือ การุณ โหสกุล อดีต ส.ส.กทม. ของพรรคเพื่อไทยและหนึ่งในนักการเมืองที่มักมีเรื่องอื้อฉาวเสมอ
บทบาทของโกตี๋ยังได้รับการเสริมจาก นายตำรวจใหญ่ มากบารมีในท้องที่ปทุมธานี ซึ่งโกตี๋มักเอ่ยถึงบ่อยๆ
ในปลายปี 2556 เมื่อกำนันสุเทพ' นำมวลชนออกสู่ท้องถนน โกตี๋เป็นแดงกลุ่มแรกๆ ที่ตั้งเวทีต้านกำนันสุเทพ ที่เวทีอนุสรณ์สถาน ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานีแม้ผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยจะขอร้อง นปช. และกลุ่ม เสื้อแดงอื่นๆ ให้หยุดการเผชิญหน้ากับ กปปส. แต่โกตี๋ก็ยังเดินหน้าจัดการชุมนุมต่อไป
ก่อนรัฐประหารโดย คสช. ในปี 2557 ไม่นาน โกตี๋ หนีการตามล่าของฝ่ายทหารไปอยู่กัมพูชา ก่อนจะย้ายไปอยู่ลาว และเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่เมืองหลวงพระบาง
ต้นปี 2559 โกตี๋ เริ่มร่วมงานกับชูชีพ ชีวะสุทธิ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ด้วยการทำวิทยุใต้ดินผ่านยูทูป
ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ คือใคร? ทำไมจึงร่วมมือกับโกตี๋ ทำวิทยุออนไลน์ใต้ดินในนาม "สถานีไทยเสรีเพื่อสาธารณรัฐไทย" เผยแพร่ทางยูทู้ป โดยโกตี๋ ในนามแฝงจัดวิทยุว่า "สหายหมาน้อย" และชูชีพใช้ชื่อ "ลุงสนามหลวง"
ลุงสนามหลวงหรือ ชูชีพ ชีวะสุทธิ์ เป็นคนเดือนตุลาสายมหิดล หลัง 6 ตุลา 2519 เข้าป่าจับปืนทางอีสานใต้ มีชื่อจัดตั้งว่า "สหายสมชาย"
ช่วงรัฐบาลทักษิณ ชูชีพประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจเหล็กเส้น โดยทำมาค้าขายกับพ่อค้าไต้หวัน ฉะนั้น เมื่อกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยชุมนุมไล่ทักษิณชูชีพได้ไปหนุนช่วยกลุ่มแท็กซี่ และคาราวานคนจน แสดงพลังสนับสนุนรัฐบาลไทยรักไทย
หลังรัฐประหาร ชูชีพเป็นแกนหลักจัดตั้งกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ปักหลักชุมนุมต้านทหารทุกวันเสาร์
วันที่ 19 พ.ย.2559 สถานีวิทยุใต้ดินกลุ่มโกตี๋ ประกาศยุติการกระจายเสียงชั่วคราว เนื่องจากหน่วยข่าวกรอง สืบทราบที่ตั้งสถานีได้ชัดเจน จึงนำข้อมูลและภาพถ่าย เข้าพบกับกรมตำรวจสันติบาลลาว เพื่อให้ทางการลาวดำเนินการตามกฎหมายลาวโกตี๋ไม่ใช่คนเดียวที่ใช้ลาวเป็นฐานเพื่อการปลุกระดม สุรชัย แซ่ด่าน ประธานกลุ่มแดงสยาม ได้เปิดสถานีวิทยุออนไลน์ในลาวมาตั้งแต่ปลายปี 2557 โดยได้รับการช่วยเหลือจาก จักรภพ เพ็ญแข และจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ
ช่วงหลัง สุรชัยเกิดข้อขัดแย้งกับกลุ่มโกตี๋ ในเรื่องเงินๆทองๆ จนต้องแยกทางกันเดินวันที่ 5 ธันวาคม 2559 วิทยุใต้ดินกลุ่มโกตี๋ กลับมาออกอากาศทางยูทูปอีกครั้ง พร้อมคำประกาศจัดตั้ง"องค์กรสหพันธรัฐไท" เพื่อเป็นหัวหอกนำการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครองในประเทศไทย
ครั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า กลุ่มโกตี๋ ได้แยกย้ายกันอยู่ เพื่อหลบเลี่ยงการติดตามจากหน่วยข่าวกรองไทย แต่ก็ยังอยู่ในเขตนครหลวงเวียงจันทน์
ต้นปี 2560 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกลาโหม ได้เจรจากับพล.ท.จันสะหมอน จันยาลาด รัฐมนตรีกระทรวงป้องกันประเทศ กรณีการร้องขอทางการลาวให้ยุติการกระจายของวิทยุใต้ดิน ซึ่งทางฝ่ายลาวก็รับปากว่า จะดูแลให้ แต่กลุ่มโกตี๋ ยังส่งเสียงข้ามโขงมาทุกคืน
นอกจากนั้น พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก ยังได้ร่วมหารือกับ พล.จ.คำเลียง อุทะไกสอน รองหัวหน้ากรมใหญ่เสนาธิการกองทัพ เพื่อแสดงความกังวลต่อการที่คนไทยกลุ่มหนึ่งใช้ลาวเป็นฐานโจมตีสถาบันเบื้องสูง ซึ่งลาวก็รับปากจะเอาไปพิจารณา
แต่จนถึงสัปดาห์ที่แล้วกลุ่มโกตี๋ก็ยังกระจายเสียงผ่านยูทูบ ราวกับว่าทางการลาวมิได้นำพาต่อข้อเรียกร้องของไทย
เป็นที่รู้กันว่า ชูชีพและสหายใช้ประสบการณ์ทำธุรกิจนำเข้าเหล็กเส้นจากต่างประเทศ ในการเลี้ยงดูปูเสื่อ ฝ่ายความมั่นคงฝั่งซ้าย' ที่คอยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตอยู่ทางฝั่งลาว
แม้แต่เมื่อรัฐบาลประยุทธ์ เปิดเกมรุกกดดัน วัดพระธรรมกาย ด้วยการใช้มาตรา 44 เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โกตี๋ก็ยังส่งเสียงปลุกระดมมวลชนคนเสื้อแดงให้สนับสนุนการต่อสู้ของชาววัดพระธรรมกาย
โกตี๋ปลุกระดมเรียกร้องข้ามแม่น้ำโขงให้สาวกธรรมกายลุกขึ้นต่อสู้ตามแนวทางของแต่ละคนถ้าหากทหารหรือตำรวจ เข้าสลายมวลชนภายในวัดพระธรรมกายเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา "สหายหมาน้อย" หรือ "โกตี๋" เปิดเกมรุกครั้งใหญ่ด้วยการแถลงยุทธศาสตร์ตั้ง"เขตปลดปล่อย" เพื่อเตรียมการฝึกกำลังคนผ่านทางวิทยุใต้ดินสถานีสหพันธรัฐไท
โกตี๋ ยังขานชื่อ "พื้นที่เป้าหมาย" ในการสร้างเขตปลดปล่อย ได้แก่ นครพนม ,ขอนแก่น, สระแก้ว, แม่สอด และแม่ฮ่องสอน
นอกจากนี้ โกตี๋ ยังโอ้อวดถึงสายสัมพันธ์กับอดีตสมาชิกพรรคคอมมิวนิวสต์แห่งประเทศ ด้วยการมอบหมายให้ "สหายยังบลัด" หรือ "สหายเลือดใหม่" ซึ่งเคบเคลื่อนไหวในเขตงานอีสานใต้ เป็นผู้รับผิดชอบการฝึกกองกำลัง
และล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา "แยมมี่ ไฟเย็น" สมาชิก "ก๊วนโกตี๋" จัดรายการที่มีชื่อว่า "เปิดโฟนโค่นเผด็จการ" ทางช่องFAIYEN CHANNEL ส่งกระจา

logoline