svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"PRIMETIME กับ เทพชัย" : "5 พระ" วัดธรรมกายส่อเบี้ยว DSI รอบ 3

28 กรกฎาคม 2559
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

มีความเป็นไปได้สูงที่พระชั้นผู้ใหญ่ของวัดพระธรรมกายทั้ง 5 รูป จะไม่เดินทางไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ภายหลังขอเลื่อนการเข้าพบมาแล้วถึง 2 ครั้ง


"PRIMETIME กับ เทพชัย" : "5 พระ" วัดธรรมกายส่อเบี้ยว DSI รอบ 3


พระชั้นผู้ใหญ่ระดับบริการวัดพระธรรมกาย ทั้ง 5 รูปประกอบด้วย พระราชภาวนาจารย์ หรือพระทัตตชีโว รองเจ้าอาวาส ในฐานะรักษาราชการแทนเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย, พระถวัลย์ศักดิ์, พระมหาสมชาย, พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ มุนิสโก พระปลัดสุธรรม สุธมโม
พระชั้นผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูป ถูกพนักงานสอบสวน ดีเอสไอเชิญมาให้ปากคำที่ ดีเอสไอ เพื่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับการบริหารด้านการเงินของวัด รวมทั้งระบบบริหารภายในวัดพระธรรมกาย เพื่อประกอบสำนวนการสอบสวนคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในคดี ยักยอกทรัพย์ ร่วมกันฟอกเงิน และฟอกเงิน จากสหกรณ์เครดิตยูเนียน คลองจั่น
ก่อนหน้านี้ พระทั้ง 5 รูปอ้างเหตุผลที่ไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนว่าเป็นเพราะอยู่ในช่วงเทศกาลวันเข้าพรรษา ต้องอยู่ปฏิบัติศาสนกิจ แต่ก็มีบางรูปที่นัดมาให้ปากคำในวันที่ 2 สิงหาคมนี้
ก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ บอกว่า จะต้องเร่งสอบปากคำพระทั้ง 5 รูป ให้เรียบร้อยภายในต้นเดือนสิงหาคม ก่อนที่อัยการจะสั่งคดีในวันที่ 11 สิงหาคม
แต่จากการพูดคุยกับตัวแทนของพระทั้ง 5 รูปล่าสุดนั้น ดีเอสไอ อาจจะต้องออกมาตรการพิเศษ เพื่อให้พระทั้ง 5 รูปมาให้ปากคำ เนื่องจากฝ่ายพระยืนยันว่า ยังอยู่ระหว่างการประกอบศาสนกิจ และเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดีนักหากจะให้พระไปให้การกับพนักงานสอบสวนที่กำลังดำเนินคดีทางโลก
อีกทั้งเรื่องที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอต้องการจะสอบปากคำนั้น ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการยบริหารจัดการภายในวัดพระธรรมกาย ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับเรื่องทางโลก เพราะเป็นการจัดการกันเองภายในวัด
แต่ทางดีเอสไอได้แย้งไปว่า จะบอกว่า เป็นเรื่องของวัดไม่ได้ หรือจะบอกว่า จะไม่เกี่ยวกับทางโลกก็ไม่ได้เช่นกัน เพราะจากการสอบสวนพบเส้นทางเงินจากสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น ผ่านเข้าไปยังวัดพระธรรมกาย การที่จะไม่สอบสวนเพื่อหาข้อมูลหลักฐานนี้ ก็จะทำให้สำนวนคดีพระธัมมชโย ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์ หากทางวัดมั่นใจว่า บริสุทธิ์ บริหารอย่างโปร่งใส ก็ควรมาให้ปากคำและนำหลักฐานนั้นมายืนยันประกอบด้วย
แต่ถึงจะยกเหตุผลอย่างไร ตัวแทนของพระทั้ง 5 รูปก็ยืนกรานที่จะไม่ไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนของ ดีเอสไอ โดยยกเหตุผลทิ้งท้ายว่า เป็นพระ ไม่เกี่ยวข้องกับทางโลก ซึ่งจะทำให้ ดีเอสไออาจจะต้องออกหมายจับพระทั้ง 5 รูปของวัดพระธรรมกาย
และในวันเดียวกันนี้ พนักงานสอบสวน ของดีเอสไอได้ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ในกรณีรถเบนจดประกอบของ หมายเลขทะเบียน ขม 99 ของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ
พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดี ดีเอสไอ บอกกับไพร์มไทม์ ว่า เป็นการประชุมเพื่อพิจารณาคดีตามการแจ้งข้อกล่าวหาการครอบครองรถเบนซ์ของสมเด็จช่วง ก่อนที่จะรวบรวมสำนวนรายละเอียดส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาอีกครั้ง
สำหรับรถเบนซ์จดประกอบคันดังกล่าวนั้น มีการชำระภาษีสรรพสามิตไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ ส่วนผู้ครอบครองจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติสรรพสามิตฯ อย่างไร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานอัยการจะได้พิจารณาดำเนินการเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ขณะเดียวกันก็ต้องรอให้กรมสรรพสามิตแจ้งผลการประเมินภาษีเสียก่อน
สำหรับคดีรถเบนซ์จดประกอบคันนี้ มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 3 ราย ได้แก่ นายเกษมศักดิ์ ภวังคนันท์ นายเมธีนันท์ หรือ ชลัช นิติฐิติวงษ์ และนายสมนึก บุญประไพ

logoline