svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

"อาบัติ" หนังไทยสะท้อนวงการสงฆ์ สร้างสรรค์สังคมหรือทำลายพุทธศาสนา

12 ตุลาคม 2558
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ยังไม่ทันได้เข้าฉายก็มีปัญหาซะแล้ว สำหรับหนังไทยเรื่อง "อาบัติ" เมื่อเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวข้องของศาสนาพุทธ ออกมายื่นหนังสือต่อต้าน ล่าสุดทีมข่าวบันเทิงได้มีการรวบรวมความคิดเห็นในหลากหลายแง่มุมของผู้ที่เกี่ยวข้อง มาให้คุณผู้ชมพิจารณากัน

หลังจากที่เผยแพร่ตัวอย่างออกมาได้เพียงแค่1สัปดาห์ "อาบัติ"หนังไทยที่มีเนื้อหาเล่าถึงบาปบุญคุณโทษนำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระสงฆ์ มาถ่ายทอด เป็นเหตุให้สมาคมนักวิชาการเพื่อพระพุทธศาสนาพร้อมด้วยภาคีเครือข่ายองค์กรพุทธรวม5องค์กร เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงกระทรวงวัฒนธรรม ให้พิจารณาและทบทวนการฉายภาพยนตร์เรื่อง"อาบัติ"โดยให้เหตุผลว่า เนื้อหาดูหมิ่น ดูแคลน ไม่ให้ความเคารพต่อพระพุทธศาสนา อาจก่อให้เกิดความเกลียดชังและขัดแย้งของผู้คนในสังคมพร้อมทั้งให้เหตุผลว่า ผู้สร้างอาจจะมีเจตนามุ่งทำลายศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพระพุทธศาสนาและเป็นการสร้างภาพยนตร์จากจินตนาการที่รุกล้ำล่วงเกินต่อพุทธศาสนา

"อาบัติ"อำนวยการสร้างโดย บริษัท สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนลผลงานกำกับของผู้กำกับหญิงหน้าใหม่"ขนิษฐา ขวัญอยู่"ภายใต้การดูแลงานสร้างของบริษัทบาแรมยู ที่มี ปรัชญา ปิ่นแก้ว เป็นโปรดิวเซอร์ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าเจตนารมณ์ที่แท้จริงของการทำหนังเรื่องนี้เพียงแค่ต้องการจะตีแผ่ความจริงของสังคมในอีกมุมหนึ่งก็เท่านั้นไม่ได้มีความคิดว่าจะทำลายหรือดูหมิ่นศาสนา แต่อย่างใด ซ้ำยังเปรียบเทียบกับหนังเรื่อง"นาคปรก"ที่ออกฉายเมื่อ5ปีก่อนว่า มีเนื้อหาที่รุนแรง และวิพากษ์วงการศาสนามากกว่าด้วยซ้ำ และมั่นใจว่าหนังเรื่องอาบัติจะไม่ถูกสั่งห้ามฉายเพราะสุดท้ายตัวหนังเองจะบอกว่าสร้างสรรค์หรือทำลายสังคม

ด้านคงเดช จาตุรันรัศมี ผู้กำกับมือรางวัลของไทย ก็มองว่าบ้านเราควรมีหนังสะท้อนสังคมออกมาบ้างเพื่อความหลากหลายทั้งในมุมของ ศาสนา ความเชื่อ และการเมือง วงการหนังไทยจะได้พัฒนา เพราะหากเทียบกับต่างประเทศแล้ววงการหนังไทยยังคับแคบ สร้างกันแค่ไม่กี่แนว เนื้อหาวนเวียนอยู่แค่เรื่องรัก ตลก พอจะทำหนังที่มีประเด็นทางสังคมกลับเป็นเรื่องบอบบาง ถูกต่อต้านจากคนบางกลุ่ม กลายเป็นตัวฉุดรั้งวงการหนังไทยให้ล้าหลังอีกทั้งกระแสดราม่าจากโลกโซเชียลก็เกิดได้ง่าย จนทุกวันนี้คนทำหนังไทยแทบจะแตะต้องประเด็นอะไรไม่ได้เลย

ขณะที่พระพยอม กัลยาโน เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กลับมีความเห็นแตกต่างออกไป โดยในมุมของสงฆ์ พระพยอมมองว่าประเด็นในหนังเรื่องอาบัติ เป็นการดึงศาสนาให้ต่ำลง พร้อมให้เหตุผลว่าเรื่องของศาสนาและพระสงฆ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ใครจะนำมาล้อเล่นได้ง่ายๆหากจะให้เหตุผลว่าเป็นการตีแผ่ความจริงให้สังคมรับรู้ พระพยอม บอกว่า เรื่องของวงการผ้าเหลืองไม่ใช่เรื่องที่จะนำออกมาตีแผ่ได้

ทางผู้สร้างมีกำหนดนำหนังเรื่อง อาบัติ เข้าเซ็นเซอร์โดยคณะกรรมการตรวจพิจารณาภาพยนตร์ในวันที่7ต.คที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีการเชิญตัวแทนจากสำนักงานพุทธศาสนามาเป็นคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และเชิญผู้เชี่ยวชาญทางพระพุทธศาสนาเข้ามาร่วมพิจารณาเป็นกรณีพิเศษด้วยเนื่องจากเนื้อหามีความอ่อนไหว อาจจะชักนำให้ผู้ชมเกิดความเข้าใจผิดต่อพระสงฆ์และคำสอนในพระพุทธศาสนาได้

เหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกหากแต่ย้อนกลับไปเมื่อปีพ.ศ. 2553ก็มีหนังไทยเรื่องนาคปรกถูกร้องเรียนถึงความไม่เหมาะสมในการนำเสนอภาพของสงฆ์ในหนัง แต่สุดท้ายหนังได้ออกฉายภายใต้เรทน.18+คือเหมาะสมกับผู้ชมอายุ18ปีขึ้นไปพร้อมทั้งต้องขึ้นคำเตือนก่อนหนังฉายว่า ในทำนองว่า เป็นเรื่องแต่งเพื่อให้คติสอนใจและไม่ได้ลบหลู่ดูหมิ่นพุทธศาสนาส่วนหนังเรื่อง"อาบัติ"ได้รับการวินิจฉัยอย่างไรวันที่7ตุลาคมคงรู้กัน

-----------------

คณะกรรมการพิจาณาภาพยนตร์มีมติเมื่อช่วงเย็นวันที่12ต.ค.ที่ผ่านมา

ให้แบน ภาพยนตร์เรื่อง อาบัติ ด้วยเหตุผล4ประการคือ

1.ปรากฏภาพสามเณรเสพของมึนเมา

2.มีภาพสามเณรใช้ความรุนแรง

3.พูดความสัมพันธ์และใช้คำพูดเชิงชู้สาวที่ไม่เหมาะสม

4.มีการแสดงความไม่เคารพต่อพระพุทธรูป

ผลการลงคะแนนของกรรมการมีมติ4ต่อ2ห้ามฉาย

อย่างไรก็ตามผู้สร้างยังมีสิทธิอุทธรณ์ได้ต่อไป

***************************************

หนังไทยที่ถูกห้ามฉาย

1.อินเซ็คอิน เดอะ แบค ยาร์ด(Insect in the Backyard)ปี2553

ผกก.ธัญวารินทร์ สุขพิสิษฐ์

2.เช็คเปียร์ต้องตายปี2555

ผกก.สมานรัฎ กาญจนวณิชย์

โปรดิวเซอร์มานิต ศรีวาณิชภูมิ

logoline