ตามรอยพ่อ อยู่แบบพอเพียง สไตล์ "เชษฐ์ สมายบัฟฟาโล่"
วันนี้ มิ้ลค์ กรรณิการ์ รุ่งกิจเจริญกุล จะพาไปพูดคุยกับมือกลองในตำนาน เชษฐ์ สมายบัฟฟาโล่ ที่เลือกเดินอีกหนึ่งเส้นทางของชีวิตคือ การเดินตามรอย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ อ.พนัสนิคม จ. ชลบุรี
สไมล์บัฟฟาโล่ วงดนตรีแนวอัลเทอร์นาทีฟร็อก ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในบ้านเราตั้งแต่ปี 2538 จากเพลง ดีเกินไป และฟ้ายังฟ้าอยู่ ที่เป็นเพลงแจ้งเกิดให้พวกเขาในฐานะศิลปินเต็มตัว โดยสไมล์บัฟฟาโล่ เป็นการรวมตัวของนักดนตรี 4 คน คือ ประดิษฐ์ วรสุทธิพิสิทธิ์, ธีรภัค มณีโชติ, พนัส อภิชาติพงศ์บุตร และวรเชษฐ์ เอมเปีย
5 ปีที่พวกเขาสร้างสรรค์ผลงานภายใต้ชื่อวง สมายด์บัฟฟาโล่ ก่อนที่สมาชิกแต่ละคนจะแยกย้ายเดินตามเส้นทางของตนเอง
เชษฐ์ วรเชษฐ์ มือกลองของวงยังคลุกคลีอยู่กับเส้นทางสายดนตรี และวงการบันเทิงกว่า 20 ปี ก่อนที่จะมีข่าวว่าชายหนุ่มคนนี้ หันหลังให้กับวงการมายา จากเมืองศิวิไลซ์ ไปใช้ชีวิตอยู่ในสวน เงินเก็บกว่า 20 ล้านบาทจากการทำงานเพื่อสร้างความบันเทิง เหลือเพียงเงินก้อนบางส่วน เพื่อนำไปลงทุนในพื้นดินว่างเปล่า ให้กลายเป็นสวนผัก ผลไม้ ที่อุดมสมบูรณ์ ค่ะ
เชษฐ์ยืนยันว่าการที่เค้า เลือกใช้วิถีชีวิตอยู่กับธรรมชาติไม่ง่ายนัก แต่อาศัยการเรียนรู้ มุ่งมั่น อดทน ตามรอยพระยุคลบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ชีวิตของเขาดีขึ้น
จากคนที่เป็นผู้รับ กลับกลายมาเป็นผู้ให้ ถือเป็นความสุขที่แท้จริง ที่หนึ่งชีวิตได้เกิดมาบนโลกใบนี้ สามารถสร้างประโยชน์สุขและแบ่งปันให้กับผู้อื่นได้ค่ะ
การสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช ที่นำมาซึ่งความโศกเศร้าต่อพสกนิกรชาวไทย แต่ในฐานะลูกของพ่อคนหนึ่ง เชษฐ์ยืนยันว่าจะยังเดินตามรอยเท้าพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 และจดจำคำสอนที่พระองค์ทรงดำรัสไว้ในใจไม่เคยลืม
นี่คืออีกหนึ่งชีวิต ที่เลือกทำและเดินตามรอยของ พ่อหลวง รัชกาลที่ 9 แม้ในวันที่พระองค์ไม่อยู่แล้ว แต่ทุกสิ่งทุกอย่าง ที่พระองค์ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระราชหฤทัยจะยังคงงดงามและยั่งยืนเติบโตอยู่ในแผ่นดินไทย อยู่ในใจพสกนิกรไทยไปตลอดกาล
ลัพธวิทย์ ประกอบผล ถ่ายภาพ
กรรณิการ์ รุ่งกิจเจริญกุล รายงาน