เริ่มกันที่วัดพุทไธศวรรย์ ปรากฏตามตำนานว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงสร้างขึ้น ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ที่ตรงนี้มีชื่อปรากฏในพระราชพงศาวดารว่า "ตำบลเวียงเล็กหรือเวียงเหล็ก" ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ คือ ปรางค์ประธาน องค์ใหญ่ศิลปะแบบขอม ตั้งอยู่กึ่งกลางอาณาเขตพุทธาวาสบนฐานไพที และมีวิหารพระนอนให้ได้กราบไหว้กันค่ะต่อกันที่วัดพระศรีสรรพเพชร์ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมายกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมืองจึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาค่ะและอีกหนึ่งสถานที่สำคัญคือพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา นับเป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ แห่งแรกของไทย ที่มีรูปแบบการจัดแสดงแบบใหม่คือ นำโบราณวัตถุมาจัดแสดงจำนวนไม่มากจนเกินไป จัดแสดงพระพุทธรูปปางต่างๆและเศียรพระประธานวัดธรรมิกราช เศียรพระพุทธรูปสำริดที่มีขนาดใหญ่สุดและมีความสำคัญมากที่สุดองค์หนึ่งในประเทศไทยค่ะ ครั้งนี้ก็มีการจัดเสวนาถึงเรื่องอยุธยาที่หายไปโดย อ.มิกกี้ ฮาร์ท นักวิชาการอิสระชาวพม่า และอ.ดร.เกรียงไกร เกิดศิริ รองคณบดีฝ่ายวิชาการและวิจัย คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร มายืนยันและอธิบาย พร้อมทั้งพานั่งรถรางชมเมืองตอนกลางคืนด้วยแน่นอนค่ะว่าอยุธยาไม่ได้หายไปไหน ยังอยู่ในเลือดเนื้อเชื้อไขและปรากฏให้เห็นในรูปแบบต่างๆ อยุธยายังมีสถานที่สำคัญๆที่น่าไปศึกษาตามรอยประวัติศาสตร์อีกเพียบ ใครมีเวลาว่างก็ลองไปเที่ยวกันได้นะคะ