สิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ที่สำคัญมี 3 อย่างด้วยกัน
1 คณะรัฐมนตรีทั้งหมดเตรียมเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ , เข้ากระทรวง เริ่มงานอย่างเป็นทางการ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน - อันนี้เป็นขั้นตอนอย่างเป็นทางการที่ต้องทำ
2 คนที่เป็นรัฐมนตรี และเป็น ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออยู่ด้วย อาจจะต้องลาออกจากการเป็น ส.ส. เพื่อเลื่อนปาร์ตี้ลิสต์ลำดับต่อไปของพรรคตนเองขึ้นมา แก้ปัญหารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ - อันนี้เป็นเรื่องการเมือง ไม่มีบังคับในกฎหมาย
และ 3 จะมีการตั้งตำแหน่งข้าราชการการเมืองต่างๆ เพื่อช่วยงานรัฐบาลและรัฐมนตรี ซึ่งตำแหน่งข้าราชการการเมืองเหล่านี้ จะเป็นการตอบแทน - ปลอบใจ ส.ส.ที่อกหัก พลาดหวังจากการเป็นรัฐมนตรีด้วย เพราะมือกฎหมายชั้นครูอย่าง อาจารย์วิษณุ เครืองาม ยืนกรานแล้วว่า ส.ส.ทำหน้าที่ข้าราชการการเมืองได้ ไม่ขัดกฎหมาย และไม่มีปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน
วันนี้เรามาโฟกัส "ตำแหน่งข้าราชการการเมือง" เพราะอีกไม่นานก็จะมีการแต่งตั้ง เปิดชื่อกันให้ฮือฮาอีกรอบ
ตำแหน่ง "ข้าราชการการเมือง" ไม่ใช่จู่ๆ ก็ตั้งกันเอง แต่เป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการการเมือง พ.ศ.2535 มีอยู่ด้วยกัน 20 ตำแหน่ง (หมายถึงชื่อเรียกตำแหน่ง ไม่ใช่จำนวนเก้าอี้)
"ข้าราชการการเมือง" คุณผู้ชมดูบนหน้าจอไปพร้อมกัน จะเห็นเลยว่าแยกได้เป็น 2 กลุ่มชัดเจน คือ กลุ่มที่เป็นรัฐมนตรี กับกลุ่มที่ไม่ใช่รัฐมนตรี กลุ่มที่เป็นรัฐมนตรีเราทราบอยู่แล้ว เพราะเพิ่งประกาศชื่อ เห็นหน้าค่าตากันหมดแล้ว แต่กลุ่มที่ไม่ใช่รัฐมนตรีถือว่าน่าสนใจว่ามีกี่ตำแหน่งกันแน่ และเป็นตำแหน่งอะไรบ้าง
1.นายกรัฐมนตรี
2.รองนายกรัฐมนตรี
3.รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
4.รัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี
5.รัฐมนตรีว่าการทบวง
6.รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
7.รัฐมนตรีช่วยว่าการทบวง
8.ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี
9.ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี
10.ที่ปรึกษารัฐมนตรี และที่ปรึกษารัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี
11.เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
12.รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง
13.โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี
14.รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี
15.เลขานุการรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี
16.ประจําสํานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
17.เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
18.ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
19.เลขานุการรัฐมนตรีว่าการทบวง
20.ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการทบวง
กลุ่มที่ไม่ใช่รัฐมนตรีก็ตั้งแต่ข้อ 8 ลงไป แต่ข้อ 19-20 ก็ตัดออกไปได้ เพราะยุคนี้ไม่มี "ทบวง" / นับรวมแล้วก็มี 11 ตำแหน่ง
11 ตำแหน่งนี้คือชื่อตำแหน่ง ส่วนจำนวนเก้าอี้ของแต่ละตำแหน่ง หมายถึงแต่งตั้งได้กี่คน ก็มีบอกไว้ในกฎหมาย และสามารถคำนวณได้โดยเทียบจากเก้าอี้รัฐมนตรี ที่สำคัญตำแหน่งเหล่านี้มีเงินเดือน เรามาดูกันว่างานข้าราชการการเมือง มีค่าตอบแทนเท่าไหร่ เริ่มจาก
- ที่ปรึกษานายกฯ / เงินเดือน 124,600 บาท / มีได้ 5 คน
- ที่ปรึกษารองนายกฯ / เงินเดือน 96,500 บาท / มี 5 คน
- ที่ปรึกษารัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจําสํานักนายกฯ / เงินเดือน 96,500 บาท / มี 17 คน
- เลขาธิการนายกรัฐมนตรี / เงินเดือน 138,000 บาท / มี 1 คน
- รองเลขาธิการนายกฯฝ่ายการเมือง / เงินเดือน 120,980 บาท / มีได้ 8 คน
- โฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี / เงินเดือน 96,500 บาท / มี 1 คน
- รองโฆษกประจําสํานักนายกรัฐมนตรี / เงินเดือน 68,680 บาท / มีได้ 3 คน
- เลขานุการรัฐมนตรีประจําสํานักนายกฯ / เงินเดือน 68,680 บาท / มี 1 คน
- ประจําสํานักเลขาธิการนายกฯ / เงินเดือน 40,000 บาท / มีได้ 30 คน
- เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง / เงินเดือน 68,680 บาท / มี 16 คน
- ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง / เงินเดือน 61,810 บาท / มี 13 คน
สมมติรัฐบาลตั้งครบทุกตำแหน่ง ซึ่งเชื่อว่าน่าจะตั้งเต็มแม็กซ์ เพราะใครๆ ก็อยากมีตำแหน่ง ก็จะมีคนที่สมหวังอีก 100 คน เพราะทั้งหมดนี้คือ 100 เก้าอี้ คำนวณเงินเดือนออกมาแล้ว 7,325,470 บาทต่อเดือน (พูดง่ายๆ คือ 7 ล้าน 3 นี่เฉพาะเงินเดือนของข้าราชการการเมืองที่ไม่ใช่รัฐมนตรี)
นอกจากข้าราชการการเมืองทั้งหมดที่เล่ามาแล้ว ยังมีตำแหน่ง "ผู้ช่วยรัฐมนตรี" ที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ในสมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ด้วย ตำแหน่งนี้ไม่ใช่ "ข้าราชการการเมือง" แต่เป็น "ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง" หน้าที่ก็บอกตามชื่ออยู่แล้ว คือ ผู้ช่วยรัฐมนตรี จริงๆ ยุคคุณทักษิณก็ตั้งขึ้นมาเพื่อหาตำแหน่งให้คนอกหักนั่นและ เพราะรัฐมนตรีก็มีผู้ช่วยเป็นที่ปรึกษา เลขาฯ กันอยู่แล้ว
ระเบียบเกี่ยวกับผู้ช่วยรัฐมนตรี กำหนดให้ใน ครม.ชุดหนึ่งๆ จะมีผู้ช่วยรัฐมนตรีได้ 30 คน เรียกรวมๆ ว่า "กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี" มีทั้งที่เป็นส่วนกลาง และแยกไปตามกระทรวงต่างๆ ซึ่งก็จะมีชื่อเรียกต่อท้ายเป็นชื่อกระทรวงนั้นๆ เช่น ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น โดยผู้ช่วยรัฐมนตรีจะได้รับเงินเดือน 60,000 บาท ถ้าตั้งครบ ก็จะใช้งบประมาณในส่วนที่เป็นเงินเดือนอีกเดือนละ 1,800,000 บาท เมื่อไปรวมกับเงินเดือนที่ต้องจ่ายให้ข้าราชการการเมืองอีก 100 ตำแหน่ง (รวมทั้งสิ้น 130 ตำแหน่ง) ก็จะต้องใช้งบในส่วนของเงินเดือนทั้งหมด 9,125,470 บาทต่อเดือน
ใช้งบที่มาจากภาษีอากรมากขนาดนี้ จะคุ้มหรือไม่คุ้ม ขึ้นกับมุมมองของประชาชนอย่างเราๆ ที่เป็นเจ้าของเงินภาษี แต่ที่แน่ๆ คือถ้าจัดสรรตำแหน่งเพื่อตอบแทนกันทางการเมือง โดยไม่คำนึงถึงความรู้ความสามารถ ก็ต้องถือว่าสิ้นเปลืองงบประมาณอย่างไม่น่าให้อภัย