เชือด!....คณบดี มรภ.เชียงใหม่อายุเกิน 60

คดีนี้ศาลเห็นว่า แม้ว่าพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ จะไม่ได้กำหนดคุณสมบัติทางอายุของผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีก็ตาม แต่หากพิจารณาจากระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาแล้ว จะเห็นได้ว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเป็น "คณบดี" ได้นั้น ต้องเป็นข้าราชการในสถาบันอุดมศึกษาเท่านั้น หมายความว่า จะต้องไม่เป็นผู้เกษียณอายุราชการ แต่บุคคลที่ได้รับเลือกเป็นคณบดี ถือว่าเกษียณอายุราชการแล้ว แม้เคยได้รับการต่ออายุราชการตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา แต่ก็ไม่สามารถดำรงตำแหน่งผู้บริหารได้ และแม้ภายหลังจะมีการลาออกจากราชการ เพื่อสละการต่ออายุราชการตามกฎหมาย เพื่อไปรับตำแหน่งบริหาร คือคณบดีคณะครุศาสตร์ก็ตาม แต่ศาลเห็นว่าการกระทำเช่นนั้น เป็นการหลีกเลี่ยงที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย
ดังนั้นบุคคลที่สภามหาวิทยาลัยแต่งตั้งให้เป็นคณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ จึงไม่มีคุณสมบัติตามกฎหมาย พิพากษาให้เพิกถอนมติของสภามหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ โดยให้มีผลย้อนหลังกลับไปตั้งแต่วันที่มีมติ

นี่ก็เป็นอีก 1 บรรทัดฐานจากศาลปกครองที่ชี้ชัดว่า การต่ออายุราชการหลังเกษียณ ไม่ได้ทำให้มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งบริหารในสถาบันอุดมศึกษาได้ กรณีเช่นนี้น่าจะยังมีอีกหลายมหาวิทยาลัย และคงต้องรอศาลชี้ขาดไปทีละมหาวิทยาลัย เพราะ สกอ. และกระทรวงศึกษาธิการ ไม่ยอมแสดงท่าทีใดๆ เพื่อสร้างบรรทัดฐานให้เกิดขึ้นจริง
ยิ่งไปกว่านั้น มหาวิทยาลัยหลายแห่งที่จ้างอธิการบดีอายุเกิน 60 ปี เป็นการใช้เงินรายได้ของมหาวิทยาลัยมาจ่ายค่าจ้าง ไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐ มีการทำสัญญาจ้าง มีเงื่อนไขหลายอย่าง จึงไม่อยู่ภายใต้พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการ ทีจะนำไปสู่การฟ้องร้องได้