(คลิปข่าว) ฝากขัง "เครือข่ายเมจิกสกิน" ลอบผลิตอาหารเสริม

สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คน มีการแบ่งหน้าที่กันทำ มีตั้งแต่หัวหน้าทีม ผู้ดูแลการเงิน มีการใช้บ้านหรูแห่งหนึ่งเปิดเป็นโรงเรียนสอนรวย มีผู้วางกลยุทธ์อบรมให้ลูกข่าย ถ้าซื้อสินค้าครบ 100 ชิ้นจะมีการสอนแต่งหน้า ซื้อพันชิ้นมีการสอนขายของทางเฟซบุ๊กและออนไลน์เพื่อหาสมาชิกและเพิ่มยอดขาย แล้วยังมีการการจ้างดาราชื่อดังรวมทั้งเน็ตไอดอลหลายสิบคนมาทำการรีวิวสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อถือ แต่จากการนำครีมบำรุงผิวหน้ายี่ห้อเมซโซ่ ที่ผลิตโดยเครือข่ายนี้ซึ่งอ้างว่ามีส่วนผสมของรกแกะไปตรวจสอบ ผลปรากฎว่าไม่ได้มีรกแกะเป็นส่วนผสมเลย เป็นแค่น้ำสกัดจากถั่วเหลือง หน้ำซ้ำพอไปตรวจโรงงานผลิตอาหารเสริมที่ย่านปทุมธานี พบว่ามีการผลิตปุ๋ยและยาฆ่าหญ้าอยู่ในที่เดียวกัน ตำรวจจึงแจ้งข้อหาหนักหลายข้อหา ทั้งร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โฆษณาเกินจริง

ทางด้าน เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ ได้ออกประกาศ อย. เรื่องสั่งให้ระงับการผลิตและขายเครื่องสำอางทุกรายการ ที่จดแจ้งในนามนางวรรณภา พวงสน จำนวน 227 รายการ และบริษัท เมจิก สกิน จำกัด จำนวน 39 รายการ ซึ่งผลิตจากสถานที่ที่ไม่ตรงตามสถานที่ที่ได้จดแจ้งไว้ และมีคำสั่งเรียกเก็บคืนผลิตภัณฑ์ทั้งหมดเพื่อนำไปทำลาย หลังจากหากมีผู้จำหน่ายรายใดที่ขายผลิตภัณฑ์ของบริษัท เมจิก สกิน ถือว่าเป็นการจำหน่ายอาหารปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับ ตั้งแต่ 5,000 100,000 บาท

ล่าสุดวันนี้ยังคงมีผู้เสียหายอีกจำนวนหนึ่ง เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบปราม โดยพนักงานสอบสวนได้ให้แจ้งชื่อผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดความเสียหาย ก่อนแยกไปสอบปากคำ ขณะเดียวกันวันนี้ก็มีแม่ทีมที่เป็นหนึ่งในสมาชิกขายตรง ได้เดินทางมาที่ห้องควบคุมผู้ต้องหา ติดต่อร้อยเวรขอให้ทนายความคุยโทรศัพท์กับผู้ต้องหาเกี่ยวกับเรื่องคดีความ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้คุมตัว นางวรรณภา พวงสน ซึ่งเป็นหัวหน้าทีม และนายกร พวงสน ทำหน้าที่ดูแลการเงิน ไปฝากขังที่ศาลอาญา ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นให้ประกันตัวไปในชั้นสอบสวน


ทางด้าน ทนายความผู้ต้องหา คุณกิจจา อาลีอิสเฮาะ บอกว่า ผลิตภัณฑ์ในเครือเมจิคสกิน คณะกรรมการอาหารและยา ได้ตรวจสอบและมีความเห็นมาแล้วว่าส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ไม่ได้มีสารอันตราย และสั่งให้ดำเนินการแก้ไขในส่วนที่ระบุที่อยู่โรงงานผลิตไม่ตรงกับที่อยู่จริงแค่นั้นเอง แต่กลับมาถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงประชาชน เชื่อว่าคดีนี้น่าจะเป็นการกลั่นแกล้งกันทางธุรกิจ ที่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกันและได้เตรียมหลักทรัพย์เป็นเงินสดไว้ประกันตัวลูกความแล้ว