คดีค้ากามน้ำเพียงดิน ปรากฏเป็นข่าวใหญ่ช่วงปลายเดือนเมษายนปีที่แล้ว โดยแม่ของเด็กสาวรายหนึ่งได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า ลูกสาวของตนถูกนายดาบตำรวจ สังกัด สภ.น้ำเพียงดิน จังหวัดแม่ฮ่องสอน บังคับให้ค้าประเวณี โดยผู้ที่มาซื้อบริการ มีทั้งข้าราชการ เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองท้องถิ่น และบุคคลในแวดวงต่างๆ ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่อมามีการซัดทอดและสอบสวนขยายผลไปยังกลุ่มแม่เล้าและผู้ร่วมขบวนการอีกหลายคน โดยตำรวจดำเนินคดีฐานร่วมกันค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณี ตามกฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ กฎหมายป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี และประมวลกฎหมายอาญา
ล่าสุดวันนี้ ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำพิพากษา โดยแบ่งจำเลยออกเป็น 2 กลุ่ม รวม 8 คน คือ
กลุ่มแรก เป็นตัวการบังคับค้าประเวณีและค้ามนุษย์ ประกอบด้วย ดาบตำรวจ ยุทธชัย ทองชาติ หรือ "ดาบยุทธ" อดีตตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน โดนโทษจำคุก 320 ปี นางสาวปิยทัศน์ ภาพเทียนสุวรรณ หรือ ฟ้า โดนโทษจำคุก 176 ปี และ นางสาวปิยะวรรณ สุขมาก หรือเมย์ โดนโทษจำคุก 167 ปี สาเหตุที่ทั้ง 3 คนโดนโทษจำคุกคนละนับร้อยปี เป็นเพราะกระทำผิดหลายกระทง และต่างกรรมต่างวาระกัน ศาลจะลงโทษแบบ "เรียงกระทงลงโทษ" และนับโทษแยกแต่ละกรรม
กลุ่มที่สอง คือ เป็นกลุ่มพ่อเล้า แม่เล้า ที่ร่วมกระทำความผิดเหมือนกัน แต่ไม่หนักเท่า 3 คนแรก กลุ่มนี้มี 5 คน โดนโทษจำคุกตั้งแต่ 12 ปีไปจนถึง 36 ปี คุณผู้ชมดูรายชื่อบนกราฟฟิกหน้าจอตามไปเลยนะคะ
แม้ตัวการหลักบังคับค้ามนุษย์เพื่อการค้าประเวณีทั้ง 3 คน จะถูกศาลสั่งลงโทษตั้งแต่ 167 ปี ถึง 320 ปี แต่จำเลยทั้ง 3 คนจะโดนโทษจำคุกจริงเพียงแค่ 50 ปีเท่านั้น เพราะเป็นไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ที่กำหนดเอาไว้ว่า เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว โทษจำคุกทั้งสิ้นต้องไม่เกินเพดานที่กำหนดเอาไว้ กล่าวคือ 50 ปี สำหรับความผิดกระทงหนักที่สุดที่มีอัตราโทษจำคุกเกิน 10 ปีขึ้นไป
ก็เรียกได้ว่าผ่านไปอีกคดีหนึ่งสำหรับ "คดีค้ากามน้ำเพียงดิน" ซึ่งเคยเป็นข่าวใหญ่เมื่อปีที่แล้ว ก็ต้องรอดูว่ากลุ่มจำเลยจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลหรือไม่ โดยคดีเดียวกันนี้ยังมีคดีแตกลูกไปอีกหลายคดี ล่าความจริงจะนำความคืบหน้ามารายงานให้ทราบต่อไป