svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

อีเวนท์ฉลองสงกรานต์ค่ำคืน...สถิติหลับไม่ตื่นพุ่งสูงสุด!

13 เมษายน 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อย่างที่ "ล่าความจริง" ไล่เรียงให้ฟังกันไปแล้ว ว่าทุกพื้นที่ทั่วไทยเริ่มเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน แต่นอกจากความสนุก ต้องไม่ลืมพูดถึงอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตามมาด้วย จากข้อมูลที่ "ล่าความจริง" ได้รับมา มีอยู่หนึ่งความเสี่ยงที่อยากให้ทุกคนช่วยกันเฝ้าระวัง นั่นก็คืออันตรายจากอุบัติเหตุบนท้องถนนที่เกิดจากรูปแบบของการเล่นน้ำสงกรานต์ที่เปลี่ยนไปจากเดิม ฟังเผินๆ หลายคนอาจจะคิดว่าก็ไม่เห็นต่างอะไรกับที่เฝ้าระวังกันทุกปีอยู่แล้ว เหมือนกับการเฝ้าระวัง "7 วันอันตราย" แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ เพราะสาเหตุของอุบัติเหตุที่จะพูดถึงนี้ เพิ่งจะมีตัวเลขให้เห็นว่าเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจในห้วงระยะเวลา 3-4 ปีมานี้เอง

อีเวนท์ฉลองสงกรานต์ค่ำคืน...สถิติหลับไม่ตื่นพุ่งสูงสุด!

สาเหตุที่ว่านี้ คือ การจัดงานเล่นน้ำสงกรานต์ตอนกลางคืน พวกที่มีปาร์ตี้ตามสถานบันเทิง บางแห่งเรียกว่า "งานมิดไนท์สงกรานต์" กิจกรรมแบบนี้ที่กรุงเทพฯมีมานานแล้ว อย่างแถวๆ อาร์ซีเอ แต่เดี๋ยวนี้ลามไปต่างจังหวัด แต่ละที่ก็จัดงานกันช่วงค่ำๆ พวกวัยรุ่นนิยมกันมาก


คือเมื่อก่อนเวลาเราเล่นน้ำสงกรานต์กัน ก็จะเล่นตอนกลางวัน พอตกกลางคืนก็สังสรรค์กันตามบ้าน หรือตามร้านอาหาร ก็จะเป็นกลุ่มเล็กๆ และเสี่ยงอันตรายน้อยกว่า แต่เดี๋ยวนี้ไม่ใช่แล้ว หลายที่มีการจัดงานเล่นน้ำตอนดึก จัดกับแบบยิ่งใหญ่เลย ก็ทำให้มีคนมารวมตัวกันเยอะ เหมือนเป็นมหกรรมคอนเสิร์ต แล้วก็มีการจำหน่ายแอลกอฮอล์ด้วย ลองนึกภาพคนเป็นพัน เล่นน้ำ ดื่มแอลกอฮอล์ แล้วตอนแยกย้ายกลับบ้าน เขาขับขี่รถกันอย่างไร นี่คือต้นตอของอุบัติเหตุ

ดูตัวเลขกันก่อนเลย จะได้เห็นว่ามันน่ากลัวจริงๆ

อีเวนท์ฉลองสงกรานต์ค่ำคืน...สถิติหลับไม่ตื่นพุ่งสูงสุด!


(ข้อมูลช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 60)ช่วงเวลา / จำนวน %
08:01-12:00 / 13 %12:01-16:00 / 18 %16:01-20:00 / 25.5 %20:01-24:00 / 18.3 %00:01-04:00 / 13.57 %04:01-08:00 / 11.63 %

หมายเหตุ : ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน

คุณผู้ชมลองดูตารางบนหน้าจอ ซ้ายมือคือช่วงเวลา ขวามือคือจำนวนร้อยละของคนที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ นี่เป็นค่าเฉลี่ยที่นับเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ปีที่แล้ว เราลองดูว่าช่วงเวลาที่มีคนเสียชีวิตมากที่สุด อยู่ในช่วงเย็นถึงค่ำ สูงสุดตอนสี่โมงเย็นถึงสองทุ่ม ตัวเลขคือ 25.5% รองลงมาคือ ช่วงสองทุ่มถึงเที่ยงคืน 18.3% ตัวเลขพวกนี้ไม่น้อยเลย ชัดเลยว่าช่วงเวลาไหนที่มีคนตายมากสุด


อีเวนท์ฉลองสงกรานต์ค่ำคืน...สถิติหลับไม่ตื่นพุ่งสูงสุด!




"ล่าความจริง" ได้ขอให้ "ผู้จัดการศูนย์วิชาการเพื่อความปลอดภัยทางถนน" คุณหมอธนะพงศ์ จินวงษ์ เพื่อวิเคราะห์ตัวเลขนี้ เราพบว่าระยะหลังๆ อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในช่วงกลางคืน มีสาเหตุเพราะผู้ประสบเหตุเพิ่งฉลองตามกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ ที่จัดขึ้นตอนค่ำ สถิติตัวเลขมีมากกว่าความสูญเสียเนื่องมาจากการเดินทางเสียอีก ซึ่งสาเหตุหนึ่งที่ช่วยให้การสูญเสียระหว่างการเดินทางลดลง เป็นเพราะรัฐปรับเปลี่ยนมาตรการและรณรงค์๋ บวกกับบังคับใช้กฎหมายอย่่างจริงจังด้วย แต่ที่น่าเศร้าคือการตายเพราะรูปแบบการฉลองตอนดึก เพราะยังไม่มีมาตรการอะไรมารองรับหรือป้องกันเลย

นึกภาพง่ายๆ มีคนออกจากงานมิดไนท์สงกรานต์ งานหนึ่งประมาณหลักพัน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ระดมกำลังไปเฝ้าระวังตามถนนใหญ่ คอยอำนวยสะดวกคนเดินทางไปมา แล้วจะแบ่งกำลังไปดูแลงานมิดไนท์สงกรานต์ได้อย่างไร แล้วถามว่าผู้ประกอบการหรือคนจัดงานจะดูแลเราหรือไม่ แน่นอนว่าเขาไม่มาคอยเช็คแอลกอฮอล์ให้หรอกว่าใครเมาแล้วห้ามกลับบ้าน สุดท้ายคนเดินทางต้องเฝ้าระวังกันเอง

พูดถึงการเฝ้าระวังกันเองบนท้องถนน ที่น่ากลัวที่สุดเลยหนีไม่พ้นการเมาแล้วขับ เราไม่รู้เลยว่ารถคันที่ขับอยู่ใกล้กับเรา หรือสวนกันไปมา มีคนเมาแล้วขับอยู่ด้วยหรือไม่ ตัวเลขของปีที่แล้ว มีการไปตรวจแอลกอฮอล์ของผู้ขับขี่ที่ประสบอุบัติเหตุ และเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ เชื่อไหมว่าเกินครึ่งของเคสทั้งหมด มีแอลกอฮอล์เกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คือในอัตราสูงกว่าที่กฎหมายกำหนด





เพราะฉะนั้นประเด็นนี้ทุกคนไม่ควรมองข้าม เนื่องจากมีความสำคัญมาก และจะส่งผลต่อการเยียวยาความเสียหายจากอุบัติเหตุ โดยเฉพาะในกรณีที่เราไม่ได้เป็นฝ่ายผิดด้วย / "ล่าความจริง"มีคำแนะนำดีๆ มาฝาก คือทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ เราควรขอให้พนักงานสอบสวนตรวจวัดแอลกอฮอล์ทั้งตัวเราและคู่กรณี สมมติเราไม่ได้เมา แต่คู่กรณีเมา แล้วไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ เราอาจติดร่างแหความผิดไปด้วย ที่สำคัญคือ ถ้าตรวจพบว่าเมาแล้วขับ จะมีโทษเยอะกว่าไม่เมา


สิ่งที่ต้องจำอีกอย่างหนึ่งก็คือ บางคนมักเข้าใจผิดว่าพวกที่เมาแล้วขับ เวลามาชนเรา บริษัทประกันเขาจะไม่คุ้มครอง แล้วเขาจะไม่มีเงินมาชดใช้ให้เรา อันนี้เป็นความเข้าใจที่ผิด บางคนถูกชนแล้วคู่กรณีมาขอร้องเลยว่าอย่าให้เขาตรวจแอลกอฮอล์ เพราะเดี๋ยวประกันไม่จ่าย แล้วเราก็จะไม่ได้เงินด้วย ซึ่งไม่เป็นความจริง จำไว้เลยว่า เมาอย่างไร แล้วไปชนคนอื่น ประกันของคู่กรณีจะคุ้มครองคนโดนชน เพราะประกันจะจ่ายไปก่อน แล้วมา "ไล่เบี้ย" คืนจากคนเมาแล้วขับในภายหลัง


เพราะฉะนั้น ใครที่โดนชนต้องให้พนักงานสอบสวนตรวจแอลกอฮอล์คนชนให้ได้ และใครที่เมาแล้วขับรถ อย่าคิดว่ารอดนะ เพราะประกันรถของคุณแค่จ่ายล่วงหน้าไปก่อน แต่คุณต้องมาชดใช้ทีหลังทุกกรณี นีคือสาระดีๆ ที่ "ล่าความจริง" นำมาฝากกัน หวังว่าคุณผู้ชมจะเที่ยวสงกรานต์อยากสนุก ปลอดภัย ไม่มีเรื่องร้ายๆ รบกวนจิตใจนะคะ

logoline