ภาพที่คุณผู้ชมเห็นอยู่นี้ เป็นภาพที่ชาวบ้านบนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ส่งเข้ามาให้ "ล่าความจริง" พร้อมระบุข้อความว่า วันนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ เข้ามาสำรวจพื้นที่เกาะม้า เพื่อเตรียมผนวกเข้าไปอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ - เกาะพะงัน แต่เจอชาวบ้านเกือบ 3 ร้อยคน ชูป้ายคัดค้านไม่ให้กรมอุทยานฯเข้ามาดูและเกาะแห่งนี้ เพราะเกาะม้าแห่งนี้ มีอำเภอและเทศบาลคอยดูแลอยู่แล้ว ซึ่งชาวบ้านได้หารือและมีมติเห็นร่วมกันว่า ไม่อยากให้กรมอุทยานฯเข้ามาดูแล เพราะจะมีผลกระทบกับวิถีชีวิตชาวบ้าน จึงได้รวมตัวกันมาชูป้ายคัดค้านกันวันนี้
ล่าความจริง จึงได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องนี้ไปยังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน ได้รับคำตอบว่า การเข้าไปสำรวจพื้นที่เกาะม้าของกรมอุทยาน เป็นแค่การให้นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล เข้าไปตรวจสอบเพื่อรวบรวมข้อมูลเท่านั้น กรณีที่ชาวบ้านรวมตัวออกมาชูป้ายคัดค้านนั้น เนื่องจากชาวบ้านเองเกรงว่า หากทางอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน เข้ามาดูแลพื้นที่เกาะม้าแล้ว จะทำให้วิถีชีวิตของชาวบ้านลำบาก เช่น กลัวว่าจะไม่สามารถออกเรือทำการประมงจับปลาจับสัตว์ทะเลได้เหมือนปกติ แต่ทางกรมอุทยานฯเคยชี้แจงให้ทราบแล้วว่า จะมีการผ่อนผันในหลายๆเรื่องให้กับชาวบ้าน แต่ทางชาวบ้านก็ไม่เห็นด้วย
ด้านนายพิทยา คงอินทร์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเพชรพะงัน เปิดเผยกับล่าความจริงว่า นับตั้งแต่มีการเตรียมประกาศให้ "เกาะม้า" ผนวกเข้าอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงันนั้น ชาวบ้านฉะโหลกหลำ และบ้านแม่หาด ได้แสดงความไม่เห็นด้วยมาโดยตลอด เพราะเชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อชาวบ้านแน่นอน ทั้งการทำประมงหรือแม้แต่การประกอบกิจการด้านการท่องเที่ยว เพราะที่ผ่านมาก็มีบทเรียนให้เห็นบ่อยครั้ง หลังจากที่กรมอุทยานฯเข้าไปดูแลพื้นที่ไหนก็ตาม แรกๆก็จะผ่อนผันให้เสมอ แต่พอเวลาผ่านไปก็จะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดจนเกินไป พวกตนในฐานะคนเกาะพะงัน มั่นใจว่าสามารถดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อยบนเกาะม้าแห่งนี้ได้ เพราะตลอดระยะเวลากว่า 50 ปี ชาวบ้านก็ดูแลกันเองมาโดยตลอด
สำหรับกรณีที่ภาครัฐจะผนวก "เกาะม้า" ให้เข้าไปอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารเสด็จ-เกาะพะงัน เนื่องจากมีปัญหาปะการังถูกทำลาย ปัญหาขยะที่มีจำนวนมาก ซึ่งมีข้อมูลระบุว่า เกาะม้ามีความเสื่อมโทรมถึง 90% จนน่าเป็นห่วง / สาเหตุหลักเกิดจากการท่องเที่ยวเสรีที่ขาดการบริหารจัดการที่ดี