ผู้ที่ออกมาเรียกร้องเรื่องนี้ คือ คุณรสนา โตสิตระกูล อดีต สว.กทม.โดยตั้งหัวข้อไว้ในเฟซบุ๊คว่า "ระยะทางพิสูจน์ม้า นาฬิกาพิสูจน์คนและกลไกรัฐ" สาระสำคัญก็คือการเรียกร้องให้ "นายกฯลุงตู่" พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา สั่งการให้ พลเอกประวิตร หยุดปฏิบัติหน้าที่รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เพื่อเปิดทางให้ตรวจสอบปมแหวนเพชรแทงตา นาฬิกาสุดหรู เพราะต้องใช้มาตรฐานเดียวกับที่เคยใช้อำนาจตาม มาตรา 44 สั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ "บิ๊กข้าราชการและนักการเมืองท้องถิ่น" มากถึง 71 คน โดยบางคนก็ถูกสั่งให้ออกจากตำแหน่ง ทั้งๆ ที่ความผิดไม่ชัด และไม่มีการสอบสวนจนเกษียณไปเลยก็ยังมี
คุณรสนา ยังฝากถึงนายกฯลุงตู่ด้วยว่า ให้นึกถึงคำโบราณที่ว่า "ช้างตายทั้งตัว อย่าเอาใบบัวไปปิด" เพราะถึงอย่างไรมันก็ไม่มิด ทุกคนย่อมเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ใครทำกรรมใดไว้ ย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น ไม่อาจจะหนีพ้นได้ ไม่ว่าจะใหญ่โตแค่ไหนก็ตาม ฉะนั้นเรื่องนาฬิกาหรู จะเป็นบทพิสูจน์ว่าทั้งคนและกลไกภาครัฐในการปราบโกง จะเป็นกลไกที่ได้รับความเชื่อถือ หรือจะเป็นเพียง "ปาหี่" ให้มหาชนโห่เท่านั้นนี่คือข้อเขียนของคุณรสนา ซึ่งต้องบอกว่าแรงมากๆ และเป็นการเรียกร้องอย่างตรงไปตรงมาไปยัง "นายกฯลุงตู่" เลยทีเดียว คำถามคือ "บิ๊กป้อม" จะแสดงสปิริตหรือไม่ หรือว่าต้องให้ "บิ๊กตู่" ใช้อำนาจสั่งยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว หรือทั้งคู่จะไม่ทำอะไรเลย ต้องรอดูอีกคนหนึ่งที่เขียนเฟซบุ๊คกระทบชิ่งถึงนายกฯลุงตู่ ก็คือ คุณนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่บอกว่า ขณะนี้เรี่มมีปัญหาความไว้วางใจผู้นำรัฐบาลและ ครม. ตลอดจน คสช. ซึ่งต้นเหตุเกิดจากการกระทำของพวกเขาเองที่สวนทางกับคำพูด ทั้งเรื่องนาฬิกาหรู และโรดแมพเลือกตั้ง คุณนิพิฏฐ์ บอกว่า เดิมคนยังเชื่อนายกฯพูด ไม่เชื่อคนรอบข้าง แต่ขณะนี้คนเริ่มไม่เชื่อคำพูดของตัวผู้นำไปด้วยแล้ว