ไม่ให้แต่ขายต่อ...ทางออกนายกฯ ปมซื้อสุนัข

ประเด็นอยู่ตรงนี้ค่ะ การควักกระเป๋าจาย 25,000 บาทโดยไม่ต้องทอน ไม่ได้ผิดกฎหมาย เพราะขณะนี้ยังไม่มีประกาศพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง แต่ที่ทำท่าว่าจะผิด คือการบอกว่า จะนำสุนัข 2 ใน 3 ตัว ไปมอบให้กับเพื่อนรักและพี่เลิฟร่วม ครม. ปรากฏว่า "ของขวัญสี่ขา" ที่ว่านี้ ราคาเกิน 3,000 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถรับของขวัญหรือของกำนัล ตลอดจนผลประโยชน์อื่นใดที่มีมูลค่าเกิน 3,0000 บาทได้ งานนี้จึงถูก คุณศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตรียมไปยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ

วันนี้ท่านนายกฯลุงตู่ เดินทางเข้าไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นวันแรกหลังเทศกาลปีใหม่ ก็มีกองทัพนักข่าวไปรอสัมภาษณ์เป็นจำนวนมาก ตอนแรกท่านนายกฯก็เดินทักทายสวัสดีปีใหม่ผู้สื่อข่าวอย่างเป็นกันเอง แต่พอนักข่าวสอบถามเรื่องที่คุณศรีสุวรรณ เตรียมไปยื่น ป.ป.ช.ให้ไต่สวนปมซื้อสุนัขพันธุ์บางแก้ว เพื่อเป็นของขวัญให้ พลเอกฉัตรชัย กับ พลเอกอนุพงษ์ ปรากฏว่านายกฯหน้านิ่งไปนิดหนึ่ง และตอบสั้นๆ ว่า "ยังไม่ได้รับสุนัขสักตัว"


นักข่าวเลยถามต่อว่า จ่ายเงินไปแล้ว นายกฯ จะเปลี่ยนใจไม่ซื้อหรือไม่ นายกฯตอบว่า "จ่ายตังค์ไปแล้ว แต่ถ้าใครจะซื้อก็มาซื้อต่อได้ จากนั้นพอนักข่าวจะซักต่ออีก ท่านก็เดินเลี่ยงไปเลย ไม่ยอมตอบคำถามอะไรเพิ่ม

จากนั้นช่วงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี ท่านนายกฯ คงจะตั้งหลักได้แล้ว และตอบคำถามนี้กับสื่อมวลชนอีกครั้ง โดยขอร้องว่าอย่าให้เป็เรื่องใหญ่เลย เพราะยังไม่ได้ให้สุนัขกับใครสักคน ยืนยันว่ารู้กฎหมายเป็นอย่างดี ว่าให้ของขวัญเกิน 3,000 บาทไม่ได้
"อนุพงษ์" เป็นงาน บอกถึงนายกฯให้ก็ไม่ขอรับ

ด้าน พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกว่า หากท่านนายกฯ จะมอบสุนัขให้ตน ก็คงจะขอท่านนายกฯ ว่า จะไม่ขอรับลูกสุนัขตัวนี้ เพราะตนทราบข้อกฎหมายดี เนื่องจากสุนัขมีมูลค่าเกิน 3,000 บาท หากรับมาก็จะผิดกฎหมาย ที่สำคัญคือตนก็ไม่อยากเลี้ยง เพราะมีสุนัขที่บ้านอยู่แล้ว

เรื่องสุนัขๆ เรื่องนี้ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า จะจบตามที่นายกฯขอร้องหรือเปล่า