ฟังแม่ทัพ 3 ภาคประเมินการเมืองปี 61
จากความสับสนเรื่องการเลื่อนหรือไม่เลื่อนเลือกตั้ง ทำให้มีการคาดการณ์กันว่า ผู้ที่ต้องมีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางการเมืองในปี 2561 คือ กองทัพ โดยเฉพาะแม่ทัพภาคต่างๆ ที่เป็นผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบ หรือ กกล.รส.ในแต่ละภาคด้วย แน่นอนว่าหากการเมืองไม่นิ่ง แม่ทัพนายกองเหล่านี้ก็ต้องขยับ เพื่อสยบความเคลื่อนไหวตามคำสั่งของ คสช. เราลองไปฟังกันว่า แม่ทัพภาคต่างๆ ประเมินสถานการณ์การเมืองในปี 2561 เอาไว้อย่างไร
เริ่มจากแม่ทัพภาคที่ 1 พลโท กู้เกียรติ ศรีนาคา คุมพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก บอกว่า ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในปี 2561 คงไม่แตกต่างจากปี 2560 มากนัก และการปฏิบัติงานของทหารก็จะยังเหมือนเดิม คือ ยึดนโยบายของ คสช. และคำสั่งของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตลอดจน พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก โดยกองทัพภาคที่ 1 พร้อมปฏิบัติทุกภารกิจ หากพบกลุ่มใดทำผิดกฎหมายก็ต้องดำเนินการ และยอมรับว่าได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ไปประกบ "บุคคลเป้าหมาย" ที่อาจสร้างสถานการณ์ความวุ่นวายขึ้น เพื่อความสบายใจของประชาชนโดยรวม
ไปต่อกันที่แม่ทัพภาคที่ 3 พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ภาคเหนือ ท่านยืนยันว่าควบคุมความเคลื่อนไหวทางการเมืองในพื้นที่รับผิดชอบของท่านแบบอยู่หมัด โดยเล่าว่า ได้พูดคุยกับนักการเมืองอาวุโสในพื้นที่ภาคเหนือทั้งหมด เช่น คุณไพโรจน์ โล่ห์สุนทร อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง ก็ได้รับคำยืนยันว่าไม่ต้องห่วง ให้เดินหน้าตามโรดแมพให้เสร็จก่อน ถ้าเสร็จแล้วขอให้บอก จากนั้นก็ว่าไปตามกระบวนการ จึงถือว่าในแต่ละพื้นที่ให้ความร่วมมือดีมาก คุยกันรู้เรื่องทุกพรรค
นอกจากนี้ จากการพูดคุยกับนักการเมือง ยังได้ให้ข้อแนะนำมาด้วยว่า หากเด็กรุ่นใหม่คนไหนเกเร ต้องดูว่าอยู่ในอาณัติของใคร จากนั้นก็ให้ผู้อาวุโสจัดการอบรมกันเอง ดีกว่าให้ทหารไปเชิญมาพูดคุย
ส่วนความเคลื่อนไหวของขบวนการใต้ดินนั้น แม่ทัพภาคที่ 3 บอกว่า กลุ่มที่เป็นห่วง ไม่ใช่กลุ่มลุงๆ นักการเมือง แต่ห่วงกลุ่มนักวิชาการมากกว่า เพราะความคิดห้ามกันไม่ได้ แต่ยืนยันว่าไม่มีกองกำลังติดอาวุธใดๆ ในพื้นที่ภาคเหนือ ส่วนการดำเนินการกับนักวิชาการที่ออกมาเรียกร้องเรื่องต่างๆ ก็จะให้ผู้บังคับหน่วยโทรศัพท์ไปพูดคุย แต่บางสิ่งบางอย่างก็เหมือนถังแก๊ส ต้องเปิดรูให้แรงอัดลดลงบ้าง
ปิดท้ายกันที่แม่ทัพภาพที่ 4 พลโท ปิยวัฒน์ นาควานิช รับผิดชอบพ้นที่ภาคใต้ ยืนยันว่า ทหารต้องเป็นกลาง ไม่เข้าข้างฝ่ายใด แต่ให้การสนับสนุนทุกฝ่าย ไม่เพ่งเล็งกลุ่มไหนเป็นพิเศษ ส่วนการเมืองก็เป็นเรื่องของการเมือง เราเป็นทหาร จะไม่ไปยุ่งกับนักการเมือง พร้อมยืนยัน ขณะนี้ไม่มีความเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองใดๆ ในพื้นที่รับผิดชอบ ทุกคนอยู่กันเป็นปกติสุข และตนไม่จำเป็นต้องเชิญหรือเรียกนักการเมืองมาพูดคุยด้วย เพราะตนไม่ค่อยชอบคุยกับใคร
แม่ทัพภาคที่ 4 บอกแบบนี้ "ถ้าไปรู้จักแล้วก็จับยาก ไม่ต้องรู้จัก จับง่ายดี"
ฟังแม่ทัพภาคที่ 4 แล้ว พูดแบบนี้เรียกว่า "ขู่กันกลายๆ" หรือเปล่า คือไม่จำเป็นต้องคุย เคลื่อนไหวเมื่อไหร่จับเลย ได้ยินแบบนี้แล้ว สถานการณ์การเมืองปี 61 ต้องบอกว่าน่าจับตาจริงๆ