บริษัทยาสหรัฐ ขึ้นราคายาผู้ป่วยเอดส์ 5,500%
ผู้บริหารบริษัทยารายหนึ่งของสหรัฐซื้อลิขสิทธิ์ยารักษาอาการติดเชื้อที่ผู้ป่วยเอดส์ต้องใช้ และปรับขึ้นราคาพุ่งพรวดชั่วข้ามคืนถึง 5,500% จากราคาเพียง 480 บาทเป็น 26,625 บาท สร้างความวิตกแก่ผู้ป่วยและมีเสียงวิจารณ์ตามมาอย่างกว้างขวาง
นายมาร์ติน ชเครลี วัย 32 ปี อดีตผู้บริหารกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ที่หันมาจับธุรกิจยาและเวชภัณฑ์และปัจจุบันเป็นผู้บริหารบริษัท ทูริง ฟาร์มาซูติคัลส์ ได้ซื้อลิขสิทธิ์ยาดาราพริม ยารักษาโรคติดเชื้อท็อกโซพลาสโมซิส ซึ่งเป็นปรสิตชนิดหนึ่งและผู้ป่วยเอดส์ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมักติดเชื้อชนิดนี้ด้วยราคา 55 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนส.ค.
และล่าสุดเขาประกาศขึ้นราคายาชนิดนี้ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมานาน 62 ปีจากราคาปัจจุบันเม็ดละ 13.50 ดอลลาร์หรือ 480 บาทเป็น 750 ดอลลาร์หรือ 26,625 บาทซึ่งเป็นการปรับขึ้นถึง 5,500% ทั้งที่ยาชนิดนี้มีต้นทุนการผลิตเพียงเกือบ 1 ดอลลาร์
ทางสมาคมโรคิดเชื้ออเมริกา สมาคมการแพทย์เอชไอวี และสถาบันสุขภาพอื่นในสหรัฐร่วมส่งจดหมายเปิดผนึกถึงบริษัท ทูริง ฟาร์มาซูติคัลส์ เพื่อเรียกร้องให้ทบทวนการปรับขึ้นราคายา โดยบอกว่าราคาใหม่เป็นราคาที่ไม่เป็นธรรมสำหรับผู้ป่วย
แต่นาย ชเครลี ให้สัมภาษณ์ทั้งกับหนังสือพิมพ์และสถานีโทรทัศน์หลายแห่ง เช่นนิวยอร์ก ไทมส์, บลูมเบิร์ก และซีเอ็นบีซี เกี่ยวกับเสียงวิจารณ์ที่ตามมา โดยชี้แจงว่านี่ไม่ใช่ความโลภของบริษัทยาที่จะมุ่งกอบโกยจากผู้ป่วย แต่เป็นความพยายามของบริษัทเล็กๆที่ตั้งขึ้นใหม่ที่จะยืนหยัดอยู่ในธุรกิจ และจำเป็นต้องทำกำไร เขาบอกด้วยว่าไม่มีเหตุผลที่จะวิจารณ์เขาในเรื่องนี้ นอกจากนี้เขาอ้างว่าจะนำรายได้ไปใช้ในการวิจัยและพัฒนายาชนิดนี้ให้ดีขึ้น โดยมีผลข้างเคียงน้อยลง
แต่ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า เชื้อท็อกโซพลาสโมซิสไม่ใช่เชื้อโรคที่กำลังต้องการยารักษาที่มีประสิทธิภาพมากกว่าที่มีอยู่ในเวลานี้
และเมื่อนายชเครลี ถูกพิธีกรของซีเอ็นบีซี ถามว่าจะเปลี่ยนใจปรับลดราคาลงหรือไม่เมื่อแพทย์และผู้ป่วยแสดงความกังวลว่าจะจ่ายค่ายาไม่ไหว เขากลับตอบเพียงคำเดียวว่า "ไม่"
ขณะที่หุ้นของบริษัทร่วงดิ่งลงอย่างแรงเมื่อวาน หลังจากฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครประธานาธิบดีของพรรคเดโมแครต วิจารณ์ว่า การโก่งราคาในตลาดยาเป็นเรื่องน่ารังเกียจ และเธอให้คำมั่นว่าวันรุ่งขึ้นจะไปร่างแผนดำเนินการกับบริษัทเหล่านี้