แรงงานต่างด้าวมีผลต่อภาคเกษตรกรไทย

ผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการเศรษฐกิจการเกษตร สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร หรือ สศก. ภูมิศักดิ์ ราศรี ระบุว่าปัจจุบันภาคการเกษตรไทยกำลังประสบปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพราะแรงงานส่วนใหญ่ที่เป็นรุ่นเก่าเริ่มเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ 

ขณะที่แรงงานหนุ่มสาวในประเทศรุ่นใหม่ๆ เองก็นิยมหันไปทำงานในภาคอุตสาหกรรมกันมากขึ้น ประกอบกับต้นทุนการผลิตภาคเกษตรเองก็ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องหันมาพึ่งพาแรงงานต่างด้าว เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตและทดแทนแรงงานไทย โดยภาคการเกษตรมีความต้องแรงงานต่างด้าวเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 10 ถึง 20 ต่อปี เพื่อทดแทนแรงงานเดิมในประเทศ ที่มีทั้งหมดประมาณ 16 ล้านคน ซึ่งการนำเข้าแรงงานต่างด้าวนั้น ยังมีปัญหาการจัดการที่ยังมีบางส่วนผิดกฏหมาย และไม่ได้ขึ้นทะเบียน โดยสถานการณ์แรงงานต่างด้าว เดือน ส.ค.มีต่างด้าวที่ได้รับอนุญาติ ที่ทั้งสิ้น 1.54 ล้านคน เป็นแรงงานผิดกฏหมาย 2 หมื่นคน แต่ไทยยังขาดแคลนแรงงานอีกราว 5 แสนคน ในภาคเกษตร

โดยภาคเกษตรมีอัตราจ้างงานต่ำทำให้มีการขาดแคลนแรงงานสูง ซึ่งภาคประมงมีจำนวนขาดแคลนแรงงานสูงสุด รองลงมาภาคพืชไร่ พืชสวน 

ดังนั้น แนวทางแก้ปัญหาระยะยาว รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจดทะเบียนแรงงาน เอาจำนวนความต้องการแรงงานทั้งหมด ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกระทรวงแรงงาน ที่ต้องมีสวัสดิการดูแลภาคเกษตรอย่างเหมาะสม เพื่อจูงใจแรงงานเข้ามาในภาคเกษตรมากขึ้น

ทั้งนี้ หากแรงงานต่างด้าวเพิ่มมากขึ้นในภาคผลิตจะส่งผลทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มในภาคการผลิต กว่า 252,000 ล้านบาทโดยภาคเกษตรมีมูลค่า 27,233 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ10.77 ของภาคการผลิตทั้งหมด โดยภาคปศุสัตว์ได้รับประโยชน์มากที่สุด 3,448ล้านบาท รองลงมาคือผักผลไม้ อ้อย และข้าว