เจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งเคมบริดจ์ ของอังกฤษ ทรงถูกดึงเข้าไปในวังวนเรื่องอื้อฉาว
เรื่องการคอรัปชั่นในการจัดแข่งขันฟุตบอลโลกของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟา หลังรายงานด้านจริยธรรมเกี่ยวกับฟุตบอลโลก ระบุว่า พระองค์กับอดีตนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน รวมประชุม "แลกเปลี่ยน" อยู่ในห้องลับของโรงแรมหรูแห่งหนึ่งในนครซูริค ของสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2553 ที่มีประธานฟีฟา และชุง มอง จุน รองประธานฟีฟาชาวเกาหลีใต้ในขณะนั้น อยู่ด้วย โดยคาเมรอนขอให้ชุงช่วยโหวตให้อังกฤษได้เป็นเจ้าภาพในปี 2018 ส่วนชุงต้องการให้อังกฤษตอบแทนด้วยการโหวตให้เกาหลีใต้ได้เป็นเจ้าภาพในปี 2022
รายงานด้านฉบับนี้ ซึ่งมีความหนา 400 หน้า เขียนโดยไมเคิล กราเซีย ทนายความชาอเมริกัน เมื่อ 3 ปีก่อน โดยมุ่งเน้นไปที่เรื่องการจัดการแข่งขันในปี 2018 และ 2022 และถูกเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ หลังรั่วไปถึงหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ "บิลด์" ของเยอรมนี ที่รายงานเบื้องหลังการโหวตเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2010 ที่ทำให้รัสเซียได้เป็นเจ้าภาพในปี 2018 และกาตาร์ในปี 2022
การเปิดเผยเรื่องนี้ ก่อให้เกิดคำถามว่า การที่สมาชิกระดับสูงของพระราชวงศ์อย่างเจ้าชายวิลเลียม ทรงเข้าไปอยู่ในการเจรจาลับได้อย่างไร ขณะที่รายงานการสืบสวนระบุว่า เจ้าหน้าที่ทางการอังกฤษ ได้รับการร้องขอให้เจ้าหน้าที่ฟีฟาที่เป็นชาวอเมริกาใต้ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ชั้นอัศวินจากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งคะแนนโหวตของเขาอาจช่วยให้อังกฤษได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ซึ่งการทำข้อตกลงแลกเปลี่ยนใดๆ ถือเป็นการทำผิดกฎของฟีฟ่า
สมาคมฟุตบอลอังกฤษทุ่มงบ 21 ล้านปอนด์ เพื่อให้เจ้าชายวิลเลียม เดวิด เบ็คแฮม และเดวิด คาเมรอน ร่วมกันล็อบบี้ให้อังกฤษได้เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ขณะที่มีรายงานว่า เจ้าชายวิลเลียมทรงไม่พอพระทัยนักที่ต้องพบปะกับเหล่าเจ้าหน้าที่ฟีฟ่า และเคยตรัสว่า ทรงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องไปประจบประแจงคนเหล่านี้