"เกรียนคีย์บอร์ด" ดูบอลไม่เป็น?

ซึ่งการถอนตัวจากการเป็นผู้เล่นฟุตบอลทีมชาติไทย ในเกมคัดฟุตบอลโลกที่ไทยจะเปิดบ้านพบกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ในรายของ "ชนาธิป สรงกระสินธุ์" ผู้เล่นจากทีมเอสซีจีเมืองทอง ยูไนต็ด กลายเป็นวิวาทะเพราะ..
มีผู้ไปแสดงความเห็นพาดพิงผ่านสื่อสังคมออนไลน์ในเชิงตำหนิว่า "ชนาธิป" ไม่ได้แสดงความเป็นมืออาชีพ กับการลงทำหน้าที่ในฐานะนักเตะทีมชาติไทย ในขณะที่เจ้าตัวย้ำถึงอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้น และไม่ต้องการที่จะฝืนลงทำหน้าที่
"จุดเดือด" ที่ทำให้ "ชนาธิป สรงกระสินธุ์" ออกมาชนกับผู้วิจารณ์เขาอยู่ตรงที่ "รับไม่ได้" กับผู้แสดงความเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ ที่พาดพิงไปถึงผู้เป็นบิดา จนกลายเป็นที่มาของการ "นัดเจอ"
ถึงนาทีนี้อิทธิพลจากการแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ได้ผลจริงๆ ครับ!
จนกลายเป็นที่มาของคำว่า เกรียนคียบอร์ด และนักเลงคียบอร์ด ต่อสิ่งที่แสดงความเห็น ซึ่งมองได้หลายด้าน อย่างที่เราเลือกจะมอง เพียงแต่บางครั้ง บางจังหวะ ก็อาจจะสร้างความขุ่นข้อง ให้เกิดขึ้นกับผู้ที่ตกเป็นเป้าของการโจมตีจาก เกรียนคียบอร์ด และ นักเลงคีย์บอร์ด
กระทั่งกลายเป็นประเด็นตอบโต้กลับมาว่า คนเหล่านี้ "ดูบอลไม่เป็น"
ผมได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความเห็น ต่อปรากฏการณ์ ที่เกิดขึ้น ทั้งกับ คุณชัยวัฒน์ แก้วผลึก ที่อยู่ในกลุ่มเชียร์ฟุตบอลทีมชาติไทย คือเชียร์ไทยพาวเวอร์ และ "โค้ชชู" ชูศักดิ์ ศรีภูมิ
ทั้งคู่อยู่กับวงการฟุตบอล ที่ต่างบทบาทกันออกไป แต่ที่เห็นตรงกันก็คือ "อิทธิพล" ของโซเชียลมีเดียยุคนี้ มันสามารถสร้างบรรยากาศของการโน้มน้าว ความรู้สึกให้เกิดขึ้น หรือคล้อยตามได้โดยง่าย
แต่สำหรับผู้ที่ตกเป็นเป้าหมายของการวิจารณ์หรือถูกพาดพิง สิ่งเลือกทำได้ดีที่สุด ก็คือ อย่าไปมีอารมณ์ร่วมด้วย
เพราะที่สุดแล้ว ทุกอย่างจะก็จะยุติไปโดยตัวมันเอง แต่ถ้าไปต่อความยาวสาวความยืด ไม่ได้เป็นผลดีแต่อย่าง (ทั้งที่มีสิทธิ ) เพราะการทำหน้าที่นักฟุตบอลก็ดี โค้ชทีมฟุตบอลก็ดี คือพร้อมรับคำวิจารณ์ทั้งในเชิงสร้างสรรค์ และไม่สร้างสรรค์
แต่เมื่อทราบถึงคำวิจารณ์นั้นแล้ว ก็กลับมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อไป ถูกหรือผิด ดีหรือไม่ดี เรารู้ได้ด้วยตัวเองครับ
ในขณะที่นิยามคำว่า "ดูบอลไม่เป็น" ในยุคนี้ ทั้งคุณชัยวัฒน์ และ "โค้ชชู" ต่างให้ทัศนะว่า "เกรียนคียบอร์ด" ที่โพสต์ข้อความลงไปนั้น มันมาจากการตกผลึกจากการรู้จริง จึงกล้าที่จะวิจารณ์ แม้แต่กระทั่งสูตรการวางตัวผู้เล่น คนดูบอลยุคนี้มีฐานความรู้ในแบบที่ "ไม่ธรรมดา"
ผมเขียนถึงเรื่อนี้ เพราะฟุตบอลทีมชาติไทย ที่จะพบกับยูเออี อังคารที่ 13 มิถุนายนนี้!
แน่นอนครับ บรรยากาศของการแสดงความเห็นบนโซเชียลมีเดีย จะเกิดขึ้นอีกครั้งหลังเกม ทั้งต่อสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย, มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชฟุตบอลทีมชาติ และผู้เล่นฟุตบอลทีมชาติไทย หากผลงานในสนามจบออกมาในแบบไม่สวย หรือไม่เป็นที่สบอารมณ์ของ "เกรียนคีย์บอร์ด" และ "นักเลงคียบอร์ด"