svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"วรวีร์ มะกูดี" จำเลยสังคม! กว่า 2 ปี ที่เผชิญวิบากกรรม

13 พฤษภาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันนี้ที่ผมหยิบยกเรื่องราวของ คุณวรวีร์ มะกูดี มาบอกเล่า ก็ด้วยเหตุที่ว่า มันคือภาพอีกด้าน ที่เราจะได้เห็นกันครับ

อันมีผลมาจากการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ล่าสุด ซึ่งเรื่องมีอยู่ว่า ศาลอุทธรณ์ ได้มีคำพิพากษา ยกฟ้อง เมื่อวันพฤหัสที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา
โดยศาลอุทธรณ์ ได้กลับคำตัดสินของศาลอาญากรุงเทพใต้! 
ที่มีคำตัดสินออกมา ในเดือนกรกฏาคม 2558 ว่า จำเลยที่ 1 คือ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (ในขณะนั้น) 
และจำเลยที่ 2 นายองอาจ ก่อสินค้า เลขาธิการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (ในขณะนั้น) 
ปลอมแปลงและใช้เอกสารปลอม ที่มีความเกี่ยวพันไปถึง การจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย

"วรวีร์ มะกูดี" จำเลยสังคม!
กว่า 2 ปี ที่เผชิญวิบากกรรม


การต่อสู้ในเรื่องนี้ จากทางจำเลย คือคุณวรวีร์ และที่ปรึกษาทางกฎหมาย คือ คุณนรินท์พงศ์ ถึงศาลอุทธรณ์ นับตั้งแต่พฤศจิกายน 2558 ว่ามิได้กระทำความผิดตามคำพิพากษา ของศาลอาญากรุงเทพใต้
เป็นการต่อสู้ทางข้อกฏหมาย ที่ล่วงเลยจนมาถึง 20 เมษายน 2560 ร่วม 2 ปี ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษาให้ยกฟ้อง!
เพราะการกระทำของจำเลยทั้ง คุณวรวีร์ และ คุณองอาจ ขาดเจตนาในการกระทำความผิด 
ต้องขอปูพื้นฐานว่า เรื่องนี้มีที่มาจาก บริษัท สโมสรฟุตบอลพัทยา จำกัด ได้เป็นโจทก์ฟ้องต่อนายกสมาคม และเลขาธิการสมาคม ( ในขะนั้น)ว่ามีการปลอมเอกสาร และใช้เอกสารปลอม 
ที่มีความเกี่ยวเนื่องกับการจัดการเลือกตั้งสมาคมฟุตบอลฯ ในรอยต่อ ที่วาระการบริหารงาน ของคุณวรวีร์ จะสิ้นสุดลง จนศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาลงโทษ และต่อมาถึงศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษายกฟ้อง
ในรอยต่อการบริหารงานสมาคมฟุตบอล ของคุณวรวีร์ เขาอยู่ในฐานะของจำเลยสังคม 
กลายเป็นเป้าให้ถูกโจมตีถึงการบริหารงาน ในทำนองที่เอื้อไปยังพวกพ้อง คุณวรวีร์ เป็นตัวแทนการทำงานในแบบอนุรักษ์นิยม จึงถูกอีกฝ่าย ที่เน้นสังคมนิยม พุ่งชน และการแก้ไขกฏระเบียนข้อบังคับต่างๆ ก่อนการเลือกตั้ง 
จนเป็นที่มาของการนำเรื่องนี้ฟ้องศาล แต่เมื่อศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง มันจึงเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นถึงความชอบธรรม ในการดำเนินการ 
น่าสนใจตรงที่ผลพวงจากการถูกฟ้องร้องทางคดีของคุณวรวีร์ ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารงานสมาคมฟุตบอลในขณะนั้นคือ 
ชนวนที่ลุกลามไปถึงการที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า พิจารณาออกบทลงโทษ ในหลายวาระ 

"วรวีร์ มะกูดี" จำเลยสังคม!
กว่า 2 ปี ที่เผชิญวิบากกรรม


ตั้งแต่การเพิกถอนบทบทบาทของสมาคมกีฬาฟุตบอลในยุคคุณวรวีร์ ช่วงตุลาคม 2558 ทำให้ช่วงนั้นอยู่ในภาวะสูญญากาศ 
การออกคำสั่งห้ามอดีตนายกสมาคมฟุตบอล เกี่ยวข้องกับกิจการฟุตบอลทั้งในประเทศและต่างประเทศ ครอบคลุมไปถึงการห้ามคุณวรวีร์ ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายกสมาคมฟุตบอล ในการเลือกตั้งกุมภาพันธ์ 2559 
และบทลงโทษล่าสุดที่ออกมาในเดือนตุลาคม 2559 คือ 
ห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลในประเทศและต่างประเทศ เป็นระยะเวลา 5 ปี พร้อมกับปรับเป็นเงินกว่า 360,000 บาท
ประเด็นที่ฟีฟ่าออกบทลงโทษ คือ การอ้างถึงความผิดในจริยธรรม ที่มาจากการปลอมแปลงเอกสารกับการจัดการเลือกตั้งในอดีต 
มาถึงวันนี้มุมในกระบวนการทางกฏหมายของไทย เป็นที่สรุปแล้วว่า อดีตนายกสมาคมฟุตบอลไม่ได้กระทำความผิดใดๆ 
บทลงโทษจากศาลไทยหายไป เหลือเพียงบทลงโทษของฟีฟ่า ที่คุณวรวีร์ และ ฝ่ายกฎหมาย กำลังจะต่อสู้ เพื่อเรียกศักดิ์ศรีของตัวเองกลับคืนมา 
หลังจากที่ตลอด 2 ปี ที่ผ่านมา ฐานะของ คุณวรวีร์ คือการตกเป็นผู้ร้ายจากการพิพากษาของสังคม 
"อยากให้สังคมรับรู้ว่าคุณวรวีร์ ไม่ได้เป็นคนทุจริต ไม่ได้ปลอมเอกสาร สิ่งที่ตกเป็นจำเลยมาตลอด 2 ปี ถึงวันนี้ศาลอุทธรณ์ได้ตัดสินแล้วว่าไม่ผิด เป็นการคืนความบริสุทธิ์ ผมจะนำเรื่องเสนอไปยังฟีฟ่า เพื่อให้ถอนโทษแบน ผมขอเรียกคืนความชอบธรรมให้กับผู้เสียหาย" 
วันนี้ คุณวรวีร์ พิสูจน์แล้วว่า เขาไม่ได้เป็นโจร อย่างที่ทุกคนกล่าวหา
นั่นคึอสิ่ง ที่คุณนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ประธานที่ปรึกษาฝ่ายกฏหมาย ที่สู้กันมาเคียงข้างคุณวรวีร์ บอกกับสื่อ
คุณวรวีร์ เงียบหายไปจากสังคม พร้อมกับการเข้ามาทำงานของ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลคนใหม่ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง 
ผมเขียนถึง คุณวรวีร์ เพราะวันนี้ สิ่งที่เขาได้คืนมา คือความบริสุทธิ์ ในกระบวนของศาลไทย 
ที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่า คุณวรวีร์ ถูกมองไปอีกด้านในวงการฟุตบอล 
แต่ด้านหนึ่ง ที่ต้องกลับมาทบทวน ตลอดวาระของการทำงาน นั่นอาจจะมีสิ่งที่ดีอยู่บ้าง เพียงแต่เราอาจจะเลือกมองข้ามมันไปครับ 

logoline