กิเลนผยอง-ปราสาทสายฟ้า งูเหลือมกลัวเชือกกล้วย 2017

เพราะมันคือการห่ำหันกัน ของทีมที่ประกาศตัวเองอยู่เสมอว่า พวกเขาคือแชมป์ฟุตบอลไทย
ที่ผ่านมาในเส้นทางกับการเป็นแชมป์ฟุตบอล ต้องให้เครดิตกับบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีมาโดยตลอด ก่อนที่จะมาสะดุดกับฤดูกาล 2016 เมื่อพลาดทั้งกับการเป็นแชมป์ไทยลีก , ส่วนฟุตบอลถ้วยอย่างโตโยต้าลีกคัพ ก็อยู่ในสภาพครองแชมป์ร่วมกันกับทางกิเลนผยอง
เพราะการประกาศยุติการแข่งขันฟุตบอลทุกรายการ ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย
ส่วนฟุตบอลในรายการ"ช้างเอฟเอคัพ" เป็นปราสาทสายฟ้า ที่ถูกกิเลนผยอง เขี่ยตกรอบ 16 ทีม ด้วยการมาแพ้ในบ้านสกอร์ 3 ประตูต่อ 1
หากย้อนไปตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2016 เป็นปราสาทสายฟ้า ที่ทำสำเร็จ กับการคว้าถ้วยพระราชทานประเภท ก. เมื่อเอาชนะคู่ปรับ อย่าง กิเลนผยอง ด้วยสกอร์ 3 ประตูต่อ 1
ทว่าจากนั้นอาจจะต้องใช้คำว่า "ขาลง" ที่เกิดขึ้นกับ บุรีรัมย์ยูไนเต็ด
โดยเฉพาะการที่ต้องพบกับ เอสซีจีเมืองทอง ยูไนเต็ด ในศึกไทยลีก เกมแรก 27 เมษายน เป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่แพ้คาบ้าน 0 3 ส่วนการมาพบกัน ที่บ้านของเอสซีจีเมืองทองยูไนเต็ด เป็นเจ้าบ้านที่เอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปได้ 3 ประตูต่อ 2
การพบกันตลอดฤดูกาล 2016 จึงเป็นฝั่ง "กิเลนผยอง" ที่สยบ "ปราสาทสายฟ้า" ในแบบราบคาบ ทั้งฟุตบอลลีก และฟุตบอลถ้วย
ที่ผ่านมา คุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ใช้คำจำกัดความอยู่เสมอว่า " แพ้ใครก็แพ้ได้... แต่ไม่แพ้เมืองทอง" หรือ แม้แต่การเปรียบ เอสซีจีเมืองทองยูไนเต็ด ที่ว่า "ไม่ต่างจากงูเหลือมที่กลัวเชือกกล้วย" ซึ่งหมายถึงบุรีรัมย์ยูไนเต็ด
ก่อนที่ทฤษฏีเหล่านั้น จะถูกแทนที่ด้วยผลงานของเมืองทอง กับฤดูกาล 2016 ทั้งฟุตบอลไทยลีก และฟุตบอลถ้วย
ห้องแต่งตัวของทีมเยือนในถิ่นบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลายเป็นห้องแห่งความสุข เมื่อทีมเยือนบุกมาเอาชนะปราสาทสายฟ้าถึงถิ่น ในศึกไทยลีก 2017 เกมแรก 3 เมษาน จะเป็นปราสาทสายฟ้า ที่เปิดบ้านรับมือ กิเลนผยองครับ
ฤดูกาลนี้ คุณเนวิน ยังคงให้ความมั่นใจกับผมว่า "งูเหลือมกลัวเชือกกล้วย" จะกลับมาเกิดขึ้นอีกครั้งอย่างแน่นอนกับฤดูกาล 2017 หลังว่างเว้นไปกับฤดูกาล 2016 และกลายเป็นช่วงแห่งความฝันร้าย ของคุณเนวิน ที่จะต้องจดจำ
ศึกไทยลีก 2017 หลังผ่าน 5 เกม เมืองทอง นำอันดับ 1 บุรีรัมย์ มาเป็นอันดับ 2 ครับ กิเลนผยอง ใช้คำว่า "วอร์ออฟฮีโร่" หรือสงครามแห่งวีรบุรุษ เพื่อสู้ศึกกับฤดูกาล 2017
ในขณะที่ ปราสาทสายฟ้า ใช้คำว่า " สไตร์แบค" หรือ ทวงคืน ที่หมายถึง การเอาทุกแชมป์กลับคืน" ไอโมบายสเตเดียม"
ฤดูกาลนี้ เราอาจจะเห็นทีมที่น่าจับตาอย่าง "สิงห์เชียงรายยูไนเต็ด" และ "อุบลยูเอ็มทียูไนเต็ด " แต่การพบกันระหว่างปราสาทสายฟ้ากับกิเลนผยอง มันคือความคลาสสิค
และน่าสนใจว่า ทฤษฏีที่สร้างขึ้นมายาวนาน ของบุรีรัมย์ จะถูกลบได้หรือไม่
"แพ้ใครก็แพ้ได้ แต่ไม่แพ้เมืองทอง" และ "งูเหลือมกลัวเชือกกล้วย"