ความท้าทายครั้งใหม่ "สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด"

โค้งสุดท้ายของการเตรียมทีม ก่อนศึกไทยลีก ฤดูกาล 2017 กำลังจะเริ่มขึ้น ในช่วงเดือนที่ผ่านมาก็มีหลายๆสโมสรทยอยเปิดตัวตัวกันอย่างยิ่งใหญ่ ด้วยงบประมาณการทำทีมในฤดูกาลนี้  โดยเฉพาะในทีมกลุ่มบนตารางที่หวังถึงการคว้าแชมป์ แต่ละทีมออกตัวด้วยการทุ่มเงินที่สูงถึง 300 ล้านบาท หนึ่งในนั้นเป็นทีมเงินถุง เงินถัง รายใหม่ ตัวแทนหนึ่งเดียวจากโซนภาคเหนือ  "กว่างโซ้งมหาภัย" เชียงราย ยูไนเต็ด ใช้เวลาเพียง 3 ปี ไต่เต้าจากดิวิชั่น2 ขึ้นสู่ลีกสูงสุด เมื่อปี 2011 ได้สำเร็จ โดยกุนซือมากประสบการณ์ชาวบราซิเลียน อย่าง "เตโก้" สเตฟาโน่ คูกูร์ร่า แม้ผลงานจะโดดเด่นสมัยที่อยู่ในลีกพระรอง แต่การโลดแล่นบนเวทีลีกสูงสุดของ เชียงราย กลับไม่สวยหรูนัก บางฤดูกาลถึงกับต้องลุ้นสุดตัว แต่สุดท้ายก็เอาตัวรอดได้เสมอมา ทั้งจากฝีมือของ "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด ที่เข้ามากู้วิกฤติทีมในระยะเวลาอันสั้น  ก่อนที่ "กว่างโซ้ง" จะมาเจอโค้ชคู่บุญ อย่าง "โค้ชโจ" ธีรศักดิ์ โพธิ์อ้น อดีตนักเตะขวัญใจแฟนเจ้าถิ่น และด้วยปรัญชาการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างผิดหู ผิดตา โดยเฉพาะการเล่นในบ้าน ยากที่จะมีทีมใดเก็บแต้มออกจากที่นี่ไปได้ ซึ่งตลอด 6 ปี บนลีกสูงสุด เชียงราย ไม่เคยจบเกินอันดับที่ 11 เลย  แสงสว่าง และความหวังของทีมเชียงราย ยูไนเต็ด เปล่งประกายขึ้นอีกครั้ง เมื่อได้กลุ่มทุนกลุ่มใหม่เข้ามาสนับสนุนทีม ทำให้มีการผนึกพลังการทำงาน และวิสัยทัศน์ของ 2 ผู้บริหารหนุ่มไฟแรง อย่าง "บิ๊กฮั่น" มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร และ "บิ๊กโจอี้" ธนพล วิระเทพสุภรณ์ ที่เข้ามานั่งแท่นรองประธานสโมสร จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่แฟนบอลทีมนี้ อยากเห็นมานานแล้ว  การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไล่ตั้งแต่การเปลี่ยนชื่อสโมสรมาเป็น "สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด" ตามกลุ่มทุนใหม่ที่เข้ามาสนับสนุน และการปรับปรุง พร้อมเปลี่ยนชื่อสนามมาเป็น สิงห์ สเตเดี้ยม และที่สำคัญกว่านั้น คือการดึง อเล็กซานเดอร์ กามา และการทุ่มซื้อนักเตะนับสิบรายเข้ามา พร้อมทั้งยังได้สร้างประวัติศาสตร์ดีลการซื้อ-ขาย ในวงการลูกหนังไทยที่สูงถึง 50 ล้านบาท เพื่อกระชากตัว ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แนวรับดีกรีทีมชาติไทยเข้ามาร่วมทีม ซึ่งเงินจำนวนนี้เทียบเท่าได้เท่ากับงบประมาณการทำทีมของพวกเขาในปีแรกที่เลื่อนชั้นขึ้นไทยลีก พร้อมกันนี้ยังได้เสริมแข้งยังเติร์กดีกรีทีมชาติไทยอีกหลายราย อย่าง ทศวรรธ ลิ้มวรรณเสถียร , สุริยา สิงห์มุ้ย , ชินภัทร์ ลีเอาะ รวมถึงแข้งต่างชาติที่จะมาสร้างความแตกต่าง อย่าง วานเดอร์ หลุยส์ ซูซ่า และเอนริเก้ อันดราเด้ ซิลวา เข้ามาร่วมทัพ   แน่นอนว่าเจ้าของค่าตัว 50 ล้าน อย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ กลายเป็นความหวังของชาวเชียงราย ทั้งนี้เจ้าตัวก็มั่นใจว่าจะช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จได้ แต่ทุกคนในทีม รวมทั้งแฟนบอลก็ต้องช่วยกัน โดยมีเป้าหมายสำคัญร่วมกัน คือ ต้องพาทีม สิงห์เชียงราย ไปโลดเล่นในเวทีระดับเอเชีย ให้ได้  ด้วยงบประมาณ และขุมกำลังที่มีชื่อชั้นมากขึ้น ย่อมทำให้เป้าหมาย และความหวังของแฟนบอล เพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งต้องติดตามกันต่อไปว่า "กว่างโซ้ง" ตัวเดิม เพิ่มเติมคือปีกที่แข็งกล้ามากขึ้น จะเผชิญกับความท้าทายครั้งใหม่นี้ ได้หรือไม่  12 กุมภาพันธ์นี้.. รู้กัน!!