ฝั่งเจ้าบ้าน มีปัญหาในการจัดทัพ เมื่อหมดสิทธิ์ใช้งาน ชนินทร์ แซ่เอียะ ผู้รักษาประตูมือ 1 ที่ติดโทษห้ามแข่ง ทำให้ต้องส่ง ธณชัย หนูราช มือ 2 ลงแทน แต่จะได้ ชลทิตย์ จันทคาม พ้นโทษห้ามแข่งกลับมายืนเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับ แอนเดอร์สัน ดอส ซานโตส ส่วนเกมรุกถือว่าพร้อมรบ นำโดย ปกเกล้า อนันต์, เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, นูรูล ศรียานเก็ม, เลอันโดร อัสซัมเซา
ฝั่งทีมเยือน กลับมาเก็บชัยชนะได้ 2 นัดติดต่อกัน หลังก่อนหน้านี้สะดุดไม่ชนะใคร 3 นัดรวด เกมนี้จะไม่มี ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้าย กับ คลีตัน ซิลวาดาวยิงสูงสุดของลีก 22 ประตู ที่โดนห้ามแข่ง ทำให้ พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา จะได้ลงสนามในตำแหน่งแบ็กซ้ายแทน ส่วนกองหน้าอาจส่ง ซิสโก ฆิมิเนซ กองหน้าคนใหม่ลงสนาม แต่ต้องเบียดแย่งกับ มิเชล เอ็นดรี ส่วนแกนหลักอย่าง สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, อดิศักดิ์ ไกรษร พร้อมลงสนามทั้งหมด
ซึ่งก่อนลงสนาม เมืองทอง มีคะแนนนำ "แข้งเทพ" แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 2 อยู่คะแนนเดียว หากเกมนี้ชนะจะรักษาตำแหน่งทีมนำฝูงต่อไปอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์แน่นอน
ทั้งนี้ สถิติที่ทั้ง 2 ทีมเคยพบกันรวมทุกรายการ ปรากฎว่าเจอกัน 19 ครั้ง เมืองทอง ชนะ 7 ครั้ง ชลบุรี ชนะ 6 ครั้ง และเสมอกัน 6 ครั้ง ซึ่งชัยชนะของ เมืองทอง 7 ครั้ง เป็นการชนะในลีกทั้งหมด โดยเจอกันครั้งล่าสุดในเลกแรกของฤดูกาลนี้ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม เมืองทอง ชนะเกมเหย้า 1-0 จากประตู ชนาธิป สรงกระสินธ์
โปรแกรมการแข่งขัน โตโยต้า ไทยลีก คู่อื่นๆ
วันเสาร์ที่ 30 กรกฎาคม 2559
18:00 น.เชียงราย ยูไนเต็ด พบ อาร์มี่ ยูไนเต็ด
18:00 น.บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ บีบีซียู
19:00 น.สุโขทัย พบ นครราชสีมา มาสด้า
19:00 น.สุพรรณบุรี พบ ซุปเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ
20:00 น.ชลบุรี พบ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด