หลังสิ้นเสียงนกหวีดที่สนาม สต๊าด เดอ นีส์ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา ทีมชาติไอซ์แลนด์สามารถหักปากกาเซียน ด้วยการโค่นอังกฤษ 2-1 จากการทำประตูของ แร็กนาร์ ซิเกิร์ดส์สัน และ โคลไบน์ ซิคธอร์สสัน ทำให้ทั่วโลกต่างรู้จัก และหันมาสนใจชาติอย่างไอซ์แลนด์ที่มีประชากรในประเทศเพียง 3.3 แสนคน และมีภูเขาไฟมากกว่านักฟุตบอลในประเทศมากขึ้น ซึ่งวันนี้ทีมข่าวเนชั่นทีวีได้มีเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยมาฝากกัน
1.อังกฤษไม่ใช่ยักษ์ตัวแรกที่พวกเขาล้มได้ โดยก่อนหน้าในในรอบคัดเลือก ไอซ์แลนด์ยังเคยเขี่ยเนเธอร์แลนด์ตกรอบมาด้วยผลชนะทั้งไป-กลับ โดย 3 ประตูที่เกิดขึ้นมาจาก กิลฟี่ ซิกูร์สัน อีกทั้งทัพอัศวินสีส้ม ยังไม่สามารถทำประตูพวกเขาได้อีกด้วย
2.ไอซ์แลนด์ ยังสร้างสถิติใหม่ ในเกมที่เสมอกับโปรตุเกส 1-1 เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. ด้วยการส่งผู้เล่น ที่มีนามสกุลลงท้าย ด้วยคำว่า SON มากที่สุด ครบจำนวน 11 คนในสนาม โดยสถิติเดิมคือรัสเซีย ที่ส่งผู้เล่นที่มีนามสกุลลงท้าย ด้วยคำว่า SEN มากที่สุที่ 10 คน เมื่อยูโรปี 1964
3.คำว่า SON ของนักเตะไอซ์แลนด์ มักจะถูกถามว่าทำไม ทุกคนต้องมีคำลงท้าย ด้วยคำนี้เหมือนกัน ซึ่งคำว่า SON นี้มักจะต่อท้ายจากชื่อพ่อของนักเตะคนนั้น เพื่อให้รู้ว่าเป็นลูกใคร ตามวัฒนธรรมของประเทศไอซ์แลนด์ โดยมีเพียงส่วนน้อยที่ไม่ได้ทำตามจารีตนี้ อย่างเช่น ไอเดอร์ กุดยอนห์เซ่น ที่เลือกใช้นามสกุลตามเดิมของพ่อเขา
4.ฮานเนส ฮัลล์ดอร์สสัน ผู้รักษาประตูไอซ์แลนด์ คือ ผู้รักษาประตูที่ทำสถิติเซฟประตูมากที่สุดในยูโร ณ เวลานี้ โดยมีสถิติการเซฟที่ 21 ครั้ง จาก 4 เกมที่ผ่านมา อีกทั้งชีวิตนอกสนามของ ฮัลล์ดอร์สสัน นอกจากเป็นผู้รักษาประตูแล้ว เขายังเป็นผู้กำกับหนังอีกด้วย
5.รางวัลระดับนานาชาติครั้งแรกของไอซ์แลนด์ คือ การคว้าเหรียญเงินจากกีฬาแฮนด์บอล ในโอลิมปิกเกมส์2008 ที่ประเทศจีน ซึ่งในการลุ้นเหรียญทองครั้งนี้ รัฐบาลไอซ์แลนด์ได้ประกาศให้วันดังกล่าว เป็นวันหยุดราชการ เพื่อร่วมลุ้นกันทั้งประเทศอีกด้วย ซึ่งในยูโรครั้งนี้ ก็มีแนวโน้มเช่นกันที่รัฐบาลจะประกาศให้ประชาชนหยุดงาน เพื่อส่งแรงใจเชียร์ทัพนักเตะของพวกเขาอีกครั้ง