"ดอร์ทมุนด์-เบรเมน" เข้ารอบรองฯ เดเอฟเบ โพคาล

ดอร์ทมุนด์็ขึ้นนำเร็ว 1-0 ตั้งแต่ในนาทีที่ 5 จาก มาร์โก้ รอยส์ ที่ซ้ำลูกยิงของ อิลคาย กุนโดกันที่พยายามสไลด์ทำประตูให้ดอร์ทมุนด์ได้ประตูแรกในเกม
เจ้าบ้านตามตีเสมอ 1-1 ในนาทีที่ 21 จากบอลโยนเข้ากลาง แต่ถูกเคลียร์ออกมาเข้าทาง ลูคัส รุปป์ ที่ยืนอยู่นอกเขตโทษยิงสวนบอลย้อยเข้าประตูไปแบบสวยงาม
ดอร์ทมุนด์ ออกนำอีกครั้งในนาทีที่ 31 เมื่อ รอยส์ แทงบอลให้ ปิแอร์ เอเมริค โอบาเมยอง ติดสปีดวิ่งเข้าหาประตูและสับไกจากบริเวณกึ่งกลางหน้าเขตโทษเข้าไปทางซ้ายของประตูให้ทีมเยือนนำ 1-2
ก่อนที่เกมจะดำเนินต่อไปจนถึงช่วงท้าย ทัพเสือเหลืองบวกสกอร์ได้อีกจาก เฮนริค เมอคิตาร์ยาน ในนาทีที่ 89 หนีไปเป็น 3-1 // ก่อนจบเกมด้วยชัยชนะของ โบรุสเซีย ดอร์มมุนด์ ได้ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศต่อไปส่วนอีกคู่ในรอบเดียวกัน แวร์เดอร์ เบรเมน บุกไปถล่ม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น 3-1 โดยออกสตาร์ทครึ่งแรกมาได้ 22 นาที เลเวอร์คูเซ่น ชิงขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ สเตฟาน คีสลิ่ง ลากบอลเข้ากรอบเขตโทษ แต่โดน อเลฆานโดร กัลเบซ ปราการหลังชาวสเปนของเบรเมน รวบล้มลงไป ผู้ตัดสินชี้ทันที ก่อนแจกใบเหลืองให้กับ กัลเบซ ไปด้วย จากลูกจุดโทษ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ "ชิชารีโต้" กองหน้าชาวเม็กซิกัน รับหน้าที่ยิงด้วยขวาเสียบมุมขวาเข้าไปให้ เลเวอร์คูเซ่น นำก่อน 1-0
ผ่านมา 31 นาที เบรเมน ไล่ตามตีเสมอ 1-1 จนได้ เมื่อ ฟิน บาร์เทลส์ เปิดฟรีคิกให้กับ ซานติอาโก้ การ์เซีย แบ็คชาวอาร์เจนไตน์ ซัดด้วยขวากลางกรอบเขตโทษบอลเสียบมุมซ้ายบนเข้าไปอย่างสวยงาม
เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 41 เบรเมนมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ เวนเดลล์ แบ็คซ้ายเลเวอร์คูเซ่น ไปทำฟาวล์ ฟิน บาร์เทลส์ ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าทันที พร้อมชักใบแดงไล่ เวนเดลล์ ออกจากสนามไปด้วย ทำให้เลเวอร์คูเซ่นเหลือแค่ 10 คนเท่านั้น ก่อนที่ เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ หัวหอกวัย 37 ปี ชาวเปรู รับหน้าที่สังหารด้วยขวาบอลเสียบมุมขวาเข้าไปให้ เบรเมน บุกมานำก่อน 2-1 เมื่อหมดครึ่งแรก
มาเล่นกันต่อในครึ่งเวลาหลัง ท้ายเกมนาทีที่ 82 ทีมเยือนโต้กลับเร็วขึ้นมา ก่อนที่จังหวะสุดท้ายเป็น ฟลอเรียน กริลลิตสช์ ซัดด้วยขวาจ่อๆ เสียบมุมซ้ายเข้าไปให้ เบรเมน นำห่าง 3-1
ช่วงที่เหลือทำอะไรกันอีกไม่ได้ จบเกม แวร์เดอร์ เบรเมนบุกมาชนะ เลเวอร์คูเซ่น ที่เหลือ 10 คน ถึงรัง 3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบรองชนะเลิศ ต่อไป