"นุศรา" แนะรุ่นน้องทีมชาติอดทนต่อแรงกดดันบนโลกออนไลน์

โดยนักตบวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทย กล่าวถึงประเด็นร้อนของแฟนวอลเลย์บอลสาวไทย ที่เข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ "หลังจากเสร็จสิ้นศึวอลเลย์บอลเวิลด์ กรังด์ปรีซ์ 2015 ถือว่าทำตามเป้าหมายที่วางไว้ได้สำเร็จ ส่วนกระแสของแฟนวอลเลย์บอลสาวทีมชาติไทยก็มีทั้งดีและไม่ดีปนกันไป เป็นเรื่องธรรมชาติของผู้ชมที่มีทั้งชื่นชมและผิดหวัง เพราะเขาคาดหวังในความสำเร็จของนักกีฬาทีมชาติ และตัวนักกีฬาก็อยากประสบความสำเร็จเหมือนกัน ในส่วนของคำวิจารณ์นั้น ในเชิงสอนเทคนิคกีฬาวอลเลย์บอล หรือติเพื่อก่อนั้นก็จะเก็บคำนั้นมาปรับปรุงและพัฒนา แต่ถ้าติด้วยถ้อยคำที่รุนแรงทำให้บั่นทอนจิตใจ เรารู้สึกไม่โอเค และในทีมมีน้องใหม่ร่วมทีม ซึ่งเขาไม่เคยผ่าน ณ จุดๆนี้ก็อาจจะทำให้เสียกำลังใจ แต่ก็มีรุ่นพี่ในทีมคอยประคับประคอง และช่วยกันแนะนำน้องใหม่ในทีม เพราะเวลาเกิดปัญหาอะไรในทีมก็จะให้กำลังใจกัน และแนะนำให้น้องอย่าไปสนใจคำพูดเหล่านี้ เพราะพวกเขาไม่ได้ยืนจุดๆที่เราผ่านความยากลำบากเหมือนเราและให้นึกถึงอนาคตของตัวเขา และพ่อแม่ที่คอยให้กำลังใจอยู่"

ด้านเป้าหมายใหญ่ของนักตบวอลเลย์บอลหญิงไทย นั่นคือได้ไปแข่งขันศึกโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ริโอ เดอ จาเนโรนั้น มือเซตสาวหน้าสวยของไทยได้กล่าวว่า มีการเตรียมตัวเพื่อแข่งขันรายการคัดเลือกไปโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่ประเทศบราซิล ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2559 แล้ว และถือเป็นรายการสำคัญ ซึ่งเรามีการเตรียมทีมที่มีระยะเวลาเตรียมตัวนาน ขณะที่ตบวอลเลย์บอลสาวไทยบางรายที่เล่นตามสโมสรในต่างแดนก็น่าจะเตรียมร่างกายพร้อมที่จะลงแข่งในช่วงเวลานั้นได้ เพราะนี่คือเป้าหมายที่สำคัญของชีวิตนักกีฬาไทยทุกคน และเราก็จะสู้อย่างเต็มที่
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามประเด็นข่าวของ "โค้ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร หัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยที่ได้รับการติดต่อให้ไปคุมทีมสโมสรในลีกประเทศจีนนั้น "ซาร่า" เผยว่า "ตนมองว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี และไม่น่ามีผลกระทบต่อทีมชาติ โดยตอนนี้ตนยังไม่แน่ใจว่าโค้ชจะไปหรือไม่ไป ส่วนตัวมองว่าเรื่องความสามารถของโค้ชไม่น่าจะอยู่ในประเทศไทยไทยที่เดียว น่าจะเผยแพร่เทคนิคต่างๆของตัวเอง รวมถึงนำเทคนิคของนักกีฬาที่ประเทศจีนมาปรับใช้กับทีมชาติไทยต่อไปด้วย และการไปคุมสโมสรในลีกจีนนั้นต้นเชื่อว่าโค้ชจะไม่ทิ้งทีมชาติแน่"

นอกจากนี้ตบสาวสวยเมืองบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ที่ติดธงชาติไทยบนหน้าอกมานานกว่า 17 ปีได้กล่าวถึงน้องใหม่ในทีมชาติไทยที่ขึ้นมาทดแทนตัวเองว่า "ในช่วงนี้พัฒนาตนเอง เก็บประสบการณ์ และโค้ชต้องเคี่ยวเข็นเพื่อพัฒนาศักยภาพ นอกจากนี้ยังต้องฝึกความอดทนต่อแรงกดดันจากทั้งตัวผู้ฝึกสอน และคนภายนอกที่เข้ามาวิจารณ์ ดูถูกเรา ซึ่งตนก็มองเห็นแววของน้องๆหลายคนในทีมชาติว่าสามารถขึ้นมาทดแทน แต่ต้องรอเวลาและประสบการณ์ และส่วนตัวมองว่ารุ่นน้องอาจจะดีกว่ารุ่นของตนด้วย"
สุดท้าย นุศรา ต้อมคำ ยังได้พูดถึงพ็อกเก็ตบุ๊ค อัตชีวประวัติของตนเองที่ชื่อว่า "เซตสู่ฝัน" จากเด็กเก็บบอล สู่เซตอันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นหนังสือถ่ายทอดเรื่องราวของตน และได้ขอบคุณแพรวสำนักพิมพ์ ที่นำเสนอเรื่องราวของตนมาเผยแพร่ให้คนอื่นรับรู้ถึงความยากลำบาก กว่าจะมาเป็นเซตเบอร์หนึ่งทีมชาติไทยอีกด้วย และอยากให้ทุกคนลองอ่านด้วย หากใครสนใจหนังสือ สามารถติดตามรายละเอียดแฟนเพจ "ตื่นเถิดชาวไทย" หรือจะมางานเปิดตัวหนังสือ "เซตสู่ฝัน" ที่ร้านนายอินทร์ ชั้น 4 เซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 เวลา 15.00-17.00น.