แข้งเด็กสาวไทยโชว์ฟอร์มสุดยอด คว้าแชมป์ฟุตบอสตูเซอร์คัพ2015

เมื่อเวลา 15.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ ราชอาณาจักรสวีเดน พลเอกคนินทร วงศาโรจน์ รองประธานสภากรุงเทพมหานคร คนที่หนึ่ง พร้อมด้วยพลตรีสุทธิชัย วงษ์บุบผา สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ร่วมชมและให้กำลังใจนักกีฬาเยาวชนกรุงเทพมหานครในการแข่งขันฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ สตูร์เชอร์คัพ ณ เมืองออสเตอร์ซุนด์ ราชอาณาจักรสวีเดนทั้งนี้ จากการเกาะติดข่าวการแข่งขันของเจ้าหน้าที่จากกองประชาสัมพันธ์ กทม. ได้รายงานข่าวถึงความเคลื่อนไหวของทีมนักกีฬากทม.หนึ่งเดียวของไทย ที่โชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดตลอดการแข่งขัน เอาชนะทีมคู่แข่งจากประเทศยุโรปและโซนลาตินอเมริกา โดยในรอบแบ่งกลุ่มแข่ง 4 แมทซ์ ชนะ 3 เสมอ 1 เป็นแชมป์กลุ่มขึ้นเป็นที่ 1 ของสาย เข้ารอบ 8 ทีม เอาชนะทีม AIKl FF ไป 3-1 เข้ารอบ 4 ทีม เอาชนะทีม Froso IF ไป 4-0 และในนัดชิงชนะเลิศโชว์ฟอมร์แข้งไทย เฉือนเอาชนะทีมStrindheimไป 1-0 คว้าแชมป์ถ้วยฟุตบอลนานาชาติ สตูเชอร์คัพ 2015 ที่สวีเดน มาครองได้สำเร็จ สำหรับนักเตะยอดเยี่ยมได้แก่ ด.ญ.ชนม์พิชชา หอมไสย จากโรงเรียนวัดทองสัมฤทธิ์ เขตมีนบุรี นอกจากนี้มีการรายงานจากสื่อต่างประเทศถึงฟอมร์การเล่นของทีมไทยที่คว้าแชมป์ครั้งนี้อีกด้วย โดยในทุกเกมส์ที่เด็กไทยลงเล่นมีพี่น้องคนไทยที่อยู่ในสวีเดน เดินมาจากเมืองต่างๆมาร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจ จนเป็นพลังให้นักกีฬากทม.โชว์ฟอมร์ได้อย่างยอดเยี่ยมในครั้งนี้ โดยทางคณะนักกีฬาและผู้ฝึกสอนชุดแชมป์ถ้วยสตูเชอร์คัพ จะเดินทางกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 6 ก.ค.58 เวลา 13.30 น. ณ สนามบินสุวรรณภูมิ (ขาเข้า) ชั้น 2 ช่วงประตู 1-2ด้านพลเอก คนินทร วงศาโรจน์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณผู้บริหารกทม. และนายจรูญ มีธนาถาวร ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา ที่ร่วมกันผลักดันส่งเสริมให้เยาวชนกทม.ได้มีโอกาสเดินทางมาร่วมแข่งขันในครั้งนี้ รวมทั้งคณะผู้ฝึกสอนที่ช่วยกันสร้างเยาวชนกทม. ให้มีพัฒนาด้านกีฬาที่ดี จนสร้างผลงานได้โดดเด่น และจะสามารถเติบโตก้าวไปเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทยทดแทนรุ่นพี่พี่ ที่ไปสร้างชื่อเสียงในฟุตบอลโลกหญิงที่ประเทศแคนนาดามาแล้วอีกด้วย ซึ่งในปีหน้าก็อยากให้ส่งเสริมนักกีฬารุ่นต่อไปเข้าร่วมการแข่งขันในต่างประเทศอีก เพื่อให้นักกีฬาได้ฝึกทักษะรวมทั้งเปิดโอกาสให้เด็กได้ประสบการณ์ที่ดีและนำไปพัฒนาทักษะของตนเองในอนาคต สำหรับการแข่งขันในครั้งนี้ถือเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของนักฟุตบอลกทม.ที่สามารถคว้าแชมป์ในระดับนานาชาติได้ และสำคัญสูงสุดของการได้มาแข่งขันครั้งนี้คือประโยชน์ของเยาวชนและวงการกีฬากทม. โดยเมื่อกลับถึงกทม.จะนำผลงานของเยาวชนไปหารือกับสภากทม.เพื่อผลักดันโครงการพัฒนาวงการฟุตบอลของกทม. ซึ่งจะต้องหารือกับฝ่ายบริหารกทม. และสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยต่อไป