"ก้อย"พร้อมคุยโค้ชเช อยากหวนคืนทีมชาติ

"น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสุ ยอมเปิดใจ พร้อมเปิดโต๊ะคุยกับ "โค้ชเช" เช ยอง ซอก รับหลังเป็นข่าวถูกโจมตีหนัก สภาพจิตใจยังปกติ ไม่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เผยตอนนี้ยังไม่อยากพูดอะไรมาก ขอเวลาเคลียร์ "โค้ชเช" ก่อน หากลงตัว พร้อมคืนทีมชาติเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ทันที
ความเคลื่อนไหวกรณีอื้อฉาวระหว่าง "โค้ชเช" เช ยอง ซอก หัวหน้าสตาฟฟ์โค้ชกีฬาเทควันโดทีมชาติไทยถูก "น้องก้อย" รุ่งระวี ขุระสะ นักกีฬาสาว กล่าวหาว่า ได้ทำการลงโทษเกินกว่าเหตุ ระหว่างการแข่งขันเทควันโด โคเรีย โอเพ่น ที่ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อสัปดาห์ก่อน พร้อมยื่นเงื่อนไขให้ "โค้ชเช" ออกมาขอโทษเรื่องดังกล่าวผ่านสื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ทางสมาคมเทควันโดได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ทว่าตัวนักกีฬาเอง ไม่ได้เดินทางมาให้ข้อมูลแต่อย่างใด
ขณะเดียวกัน "โค้ชเช" ซึ่งได้เดินทางจากเกาหลีใต้ กลับมาถึงประเทศไทย เมื่อคืนวันที่ 20 ก.ค. ก็ได้เปิดแถลงข่าวขอโทษกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความเห็นใจไปยัง "น้องก้อย" ที่ยังมีอนาคตในกีฬาชนิดนี้ และพร้อมที่จะเปิดประตูต้อนรับ หากเจ้าตัวยังต้องการเล่นทีมชาติต่อไป เพราะตนเองเป็นครู ที่ไม่มีวันตัดขาดจากลูกศิษย์ได้
ล่าสุด "น้องก้อย" ซึ่งก่อนหน้านี้หลังจากให้สัมภาษณ์กับรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่งแล้ว ก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ต่อสาธารณะอีกเลย ได้รับโทรศัพท์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ยอมรับว่า ถูกโจมตีหนักจากข่าวที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไรมาก สภาพจิตใจยังคงเป็นปกติ ส่วนเรื่องการกลับไปเล่นทีมชาตินั้น แน่นอนว่า ต้องอยากกลับไปอยู่แล้ว และก็พร้อมที่จะไปพูดคุยปรับความเข้าใจกับโค้ชเชทันที หากทางสมาคมทำการนัดหมายมาตัวเองก็พร้อมเดินทางไปพูดคุยเพื่อให้ทุกอย่างยุติลงด้วยดี
"ตอนนี้ไม่อยากจะพูดอะไรมาก ขอคุยกับทางโค้ชเชก่อน หากการเจรจาลุล่วงด้วยดี ก็พร้อมกลับไปคัดตัวเพื่อร่วมแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่เกาหลีใต้ ในช่วงกลางเดือน ก.ย.นี้" น้องก้อย ที่ก่อนหน้านี้ได้ประกาศอำลาทีมชาติ จากสาเหตุดังกล่าวเผยความรู้สึกให้รับทราบ
ขณะที่ "บิ๊กชา" นายปรีชา ต่อตระกูล อุปนายกสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้กล่าวว่า เป็นการส่งสัญญาณที่ดีหาก "น้องก้อย" รุ่งระวี จะเข้ามาเจรจาพูดคุยกับ โค้ชเช ยอง ซอก และคณะกรรมการบริหารจริง เพื่อต้องการให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีกันทั้งสองฝ่าย เพราะเรื่องนี้มันเป็นปัญหาภายในสมาคมที่สามารถเจรจาตกลงกันได้ อะไรที่ไม่เหมาะสมก็ควรมาพูดกันภายใน ไม่จำเป็นต้องเอาไปโพสต์ในโลกสังคมออนไลน์ หรือ ให้คนนอกที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับรู้ เพราะอาจจะตกเป็นเหยื่อในกรณีแบบนี้ได้ ยิ่งหากสื่อสารกันผิดพลาดแล้วมันจะบานปลายไปกันใหญ่ เพราะนักกีฬากับผู้ฝึกสอนก็เหมือนกับ ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์ ไม่สามารถแยกออกจากกันได้ ที่ผ่านมากระแสสังคมได้ตีแผ่เรื่องนี้ไปมากแล้ว ดังนั้นทุกอย่างควรจะจบลงและเดินหน้าเพื่อคว้า เหรียญทอง กีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่นานจิง ประเทศจีน และ เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 17 ที่อินชอน ประเทศเกาหลีใต้ จะดีกว่า
ทั้งนี้สมาคมยังอ้าแขนรับ รุ่งระวี เข้าสู่แคมป์ทีมชาติ เพราะสิทธิ์ที่เขามีอยู่ในการคัดเลือกตัวชุดเอเชี่ยนเกมส์ยังไม่ได้ตัดออกไป หากเจ้าตัวพร้อมจะเดินทางมาก็สามารถติดต่อมายังสมาคมได้ รวมไปถึงการพูดคุยเป็นการส่วนตัวกับ โค้ชเช เพื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น ทางสมาคมเองก็พร้อมและยินดีอย่างยิ่ง ที่ผ่านมาเราเสียเวลากับเรื่องดังกล่าวมานานแล้ว ทำให้กำลังใจนักกีฬาคนอื่นๆเสียขวัญ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะเป็นมาตรฐานที่ดีต่อไป รวมไปถึงการออกกฏระเบียบลงโทษนักกีฬาที่ประพฤติตัวไม่ดี ขาดระเบียบวินัย และการทุ่มเทเอาใจใส่ทั้งในสนามฝึกซ้อมและแข่งขันว่า จะต้องมีบทลงโทษอย่างไรบ้าง
นอกจากนี้ นายปรีชา ยังได้โทรศัพท์ไปหา นางนพมาศ ขุระสะ มารดาของ "น้องก้อย" รุ่งระวี เพื่อปรับความเข้าใจต่างๆที่เกิดขึ้น พร้อมได้เห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกันทั้งสองฝ่าย และให้ทุกอย่างจบเพียงแค่นี้