svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กองปราบเปิดปฎิบัติการชำระผ้าเหลือง

24 พฤษภาคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เมื่อเวลา 06.00 น.วันที่ 24 พ.ค.2561 พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.สั่งการให้พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผบช.ก.พล.ต.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.นำกำลังตำรวจกองปราบปราม

บุกเข้าตรวจค้น 3 วัดดังในกรุงเทพฯที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด ประกอบด้วย วัดสระเกศราชวรวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย วัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร เขตสัมพันธวงศ์ และวัดสามพระยา วรวิหาร พร้อมกันนี้ยังมีการเข้าตรวจค้นที่วัดอ้อน้อย จ.นครปฐม และที่วัดตราชู และวัดกุฏีทอง อ.พรมบุรี จ.สิงห์บุรี กรณีพระพุทธรูปในวัดดังกล่าวหายไปอีกด้วย



โดยกำลังชุดแรกนำโดย พล.ต.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป.พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1.บก.ป.นำหมายจับศาลอาญา เข้าตรวจค้นที่วัดสระเกศ เพื่อจับกุมพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ,กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 10 จากการตรวจค้นไม่พบตัวพระพรหมสิทธิ อยู่ภายในวัด พบเพียงพระศรีคุณาภรณ์ และ พระครูสิริวิหารการสมจิตร จันทร์ศรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศฯ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาร่วมกันกระทำความผิดคดีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน และนายทวิช สังข์อยู่ อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ของวัด ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน



กองปราบเปิดปฎิบัติการชำระผ้าเหลือง





รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับ "พระพรหมสิทธิธงชัยฯ" ขณะเข้าตรวจค้นไม่พบตัวภายในวัด เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทราบจากลูกศิษย์วัดว่า พบเห็นพระพรหมสิทธิธงชัยฯ ครั้งสุดท้ายคือ เมื่อช่วงเวลา 16.00 น.ของวันที่ 23 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยบอกกับลูกศิษย์ว่าจะออกไปตรวจงานก่อสร้างภายในวัด ก่อนที่จะเดินหายไปไม่กลับมา แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า เจ้าหน้าที่พบประตูเล็กๆข้างวัด มีลักษณะคล้ายประตูลับ ซึ่งจะออกไปสู่ถนนบำรุงเมืองได้ ซึ่งก่อนหน้านี้เคยให้ชุดสืบสวนศึกษาทางเข้า -ออก จากภายนอกแล้ว แต่ก็ไม่พบประตูลับดังกล่าวแต่อย่างใด

สำหรับพระวัดสระเกศที่ถูกออกหมายจับเพื่อดำเนินคดี มีทั้งหมด 4 รูป คือ 1.พระพรหมสิทธิธงชัย สุขโข เจ้าอาวาสฯ และเจ้าคณะภาค 10 , 2.พระศรีคุณาภรณ์ หรือ พระมหาบุญทวี คำมา ผู้ช่วยเจ้าอาวาส , 3.พระครูสิริวิหารการสมจิตร จันทร์ศรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาส , 4.พระวิจิตรธรรมาภรณ์ หรือเจ้าคุณเทอด ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่ รพ.แห่งหนึ่งในพื้นที่ กทม. โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปทำการอายัดตัวเอาไว้แล้ว



กองปราบเปิดปฎิบัติการชำระผ้าเหลือง





ส่วนฆราวาสอีก 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.นุชรา สิทธินอก หญิงแม่บ้านที่รับเงินโอนจากวัด น.ส.ฆัมม์พร นิพนธ์พิทยา มารดาของร.ท.ฐิติทัศน์ ,นายธีระพงษ์ พันธ์ศรี และนายทวิช สังข์อยู่ ลูกศิษย์วัดและผู้มีอำนาจเซ็นชื่อเบิกจ่ายเงินในบัญชีของวัด ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับบริษัท ดีดีทวีคูณ ที่รับจ้างผลิตสื่อให้กับวัดสระเกศ

โดยที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มีการเข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าว ซึ่งก็พบมีหลักฐานบางส่วนที่เชื่อมโยงกับการทุจริตใน 2 โครงการ จำนวนเงิน 69 ล้านบาท โดยพบเส้นทางการเงินที่โอนเงินไปให้กับบุคคลภายนอก ทั้งนี้ยังพบบัญชีธนาคารบัญชีส่วนตัว ที่มีชื่อเจ้าอาวาสเป็นเจ้าของถึง 10 บัญชี โดยพบกระแสการเงินมากกว่า 130 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ป้องกันและปรามปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. ได้อายัดเงินทั้งหมดไว้แล้ว

พล.ต.ต.ไมตรี เปิดเผยว่า วันนี้ที่เข้าตรวจสอบไม่ได้เข้าเพียงแค่วัดสระเกศราชวรมหาวิหารที่เดียว วันนี้ที่ทำการเข้าตรวจค้นอีก 2 วัด คือ วัดสามพระยา วัดสัมพันธวงศ์ ซึ่งเป็นการเข้าตรวจสอบเรื่องเงินทอดวัดจากสำนักพุทธ จากการตรวจสอบพบว่างบประมาณที่ได้มาทางวัดทั้ง 3 วัดไม่ได้มีการนำเงินไปใช้จ่ายตามที่เขาได้รับงบมาเลย ทั้ง 3 วัดก็จะได้งบประมาณมาจากหลายส่วน ซึ่งแต่ละวัดจะมีวิธีย้ายเส้นทางการเงินแตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการโอนเงินเข้าบุคคลอื่นแทบทั้งสิ้นซึ่ง

พล.ต.ต.ไมตรี เปิดเผยว่า ในส่วนของวัดสระเกศฯ นั้นเกี่ยวข้องกับเงิน 32 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินงบเผยแพร่ศาสนา ที่สำนักงานพุทธศาสนา โอนเงินให้จัดทำตามโครงการ แต่จากการตรวจสอบพบว่ามีการโอนเงินจำนวน 25 ล้านบาทไปให้กับน.ส.นุชรา สิทธินอก อายุ 32 ปี มีชื่อเป็นผู้เปิดบริษัทที่รับเงินจากทางวัด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปสอบสวนที่กองปราบอีกครั้ง

กองปราบเปิดปฎิบัติการชำระผ้าเหลือง

ขณะเดียวกันกำลังชุดที่2 นำโดย พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง รองผบช.ก. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา ผกก.2 ป.นำกำลัง พร้อมหมายจับศาลอาญา เข้าตรวจตรวจค้นที่วัดสามพระยา เพื่อจับกุมพระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร และพระอรรถกิจโสภณ เลขาเจ้าคณะกรุงเทพ ในข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน พร้อมตรวจค้นหาเอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดี เบื้องต้นพบพระพรมดิลก กำลังจำวัดอยู่ภายในกุฎิ เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับให้ดู พร้อมกับเข้าตรวจค้นหาหลักฐานเพิ่มเติมภายในกุฎิ เสร็จแล้วก็ขอเชิญตัวมาดำเนินคดีทันที

จุดที่สามคือวัดสัมพันธวงศาราม วรวิหาร นำโดยพ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รองผบก.ป.พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3.บก.ป.นำหมายจับศาลอาญา เข้าตรวจค้นเพื่อจับกุมพระพรหมเมธี (จำนงค์ ธมฺมจารี) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม กรรมการ มส. และเจ้าคณะภาค 4-7 ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน แต่ไม่พบตัว จึงได้ตรวจค้นหาเอกสารหลักฐานต่างๆ เกี่ยวกับการฟอกเงินเพื่อดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้กำลังอีกชุดนำโดย พล.ต.ต.อภิชาติ สิริสิทธิ์ รองผบช.ก.พ.ต.อ.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผกก.5.บก.ป.นำกำลังเจ้าหน้าที่กก.5.บก.ป. พ.ต.อ.เด่นหล้า รัตนกิจ ผกก.ปพ.บก.ป. และคอมานโด อาวุธครบมือ นำหมายจับศาลอาญา เพื่อจับกุมพระสุวิทย์ ธีรธมฺโม หรือพระพุทธอิสระ ที่วัดอ้อน้อย อ.เมือง จ.นครปฐม ในข้อหาสนับสนุนให้มีการปล้นทรัพย์ จากกรณีเมื่อครั้งการชุมนุมของกปปส.เมื่อปี 2556 ซึ่งกลุ่มผู้ชุมนุมที่นำโดยพระสุวิทย์ เวทีแจ้งวัฒนะ กรณีกลุ่มมวลชนของกปปส. ได้ปล้นทรัพย์เป็นอาวุธปืนของตำรวจสันติบาลไป
โดยมีรายงานว่า ขณะตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบว่า กุฎิของพระสุวิทย์มีการ์ดดูแลอยู่รอบๆ ในจุดนี้เจ้าหน้าที่กองปราบฯ จึงมีการติดอาวุธทุกนาย เนื่องจากการข่าวสืบพบว่า กลุ่มการ์ดบางคนมีการครอบครองอาวุธปืนด้วย ทั้งนี้ ขณะเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ได้กระจายกันควบคุมตัวการ์ดเอาไว้ และตรวจสอบหมายจับ ว่าบุคคลใดมีหมายจับหรือไม่ เพราะการ์ดบางคนได้ร่วมชุมนุมที่เวทีแจ้งวัฒนะด้วย จากนั้นก็บุกเข้าไปในกุฏิ พบว่า พระสุวิทย์ อยู่ภายในห้องนอนไม่ได้ห่มจีวร เพียงแต่นุ่งสบงและสวมอังสะ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงหมายจับก่อนจับกุมตัว ก่อนนำตัวเข้ามาสอบสวนดำเนินคดีที่กองปราบฯทันที



กองปราบเปิดปฎิบัติการชำระผ้าเหลือง





ต่อมาเวลา 11.00 น.พล.ต.ท.ฐิติราช ก็ได้เดินทางเข้ามาที่กองปราบปราม เพื่อทำการสอบปากคำผู้ที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ด้วยตนเอง พร้อมเปิดเผยก่อนเข้าประชุม ว่าปฏิบัติการตรวจค้นวัดเป้าหมาย ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินทอนวัด กก็ต้องขอเวลาให้พนักงานสอบสวนทำงานก่อน เพราะตอนนี้ยังเข้าปฏิบัติการค้นไม่ครบตามเป้าหมาย ซึ่งตนยืนยันว่า คดีนี้ทำไปตามหลักฐานที่พบทุกอย่าง ใครผิดก็ว่าไปตามผิด ก็ขอให้ลูกศิษย์วัดเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย โดยขอให้แยกแยะระหว่างศาสนากับตัวบุคคลด้วย
พล.ต.ท.ฐิติราช เปิดเผยก่อนเข้าประชุมคดีปฏิบัติการตรวจค้นวัดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินทอนวัด ว่า ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน เพราะตอนนี้ยังเข้าปฏิบัติการค้นไม่ครบตามเป้าหมาย ปฏิเสธที่จะตอบว่าเจ้าอาวาสวัดสระเกศยังอยู่ในวัดหรือไม่ ยืนยันว่าการสอบสวนใครผิดก็ว่าไปตามผิด ขอให้ลูกศิษย์วัดเข้าใจการทำงานของตำรวจ ขอให้แยกแยะระหว่างศาสนากับบุคคล

logoline