"เสี่ยปรีชา" ควัก 4 แสนสร้างบ้านครอบครัวพิการ ดูแลอีกเดือนละหมื่นต่อเนื่อง จนกว่าจะตายจากกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.อุดรธานี มาเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 ตุลาคม นายปรีชา และนางสรรค์นรา ชัยรัตน์ สองสามีภรรยาคณบดีใจบุญอุดรธานี ที่แจกอั่งเปาประชาชนทั่วไป ในเทศกาลตรุษจีนทุกปี ปีละมากกว่า 2 ล้านบาท พร้อมกับ พล.ต.ต.เสริมศักดิ์ แก้วกัณฑา อดีต ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 15 ม.9 บ.หนองแห้ว ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี มอบบ้านที่สร้างให้ครอบครัว "พิมพากุล" มูลค่า 400,000 บาท โดยมีนายมานิตย์ อินทร์อำคา รองประธานสภา อบจ.อุดรธานี นำชาวบ้านนิมนต์พระสงฆ์ทำบุญเป็นสิริมงคล
นางจันทรี พิมพากุล อายุ 74 ปี พร้อมลูกพิการ เล่าให้ฟังว่า สามีเสียชีวิต มีลูก 4 คน เสียชีวิต 1 คน ที่เหลือตอนเด็ก ๆ ก็เดินได้ปกติ โตขึ้นป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง คนโตนายสุริยา อายุ 47 ปี ต้องนั่งรถเข็น คนที่สองนายอินแปลง อายุ 39 ปี ต้องนั่งรถเข็น และคนที่สามนายทองแดง อายุ 35 ปี ต้องมีคนช่วยพยุงเดิน และยังมีคนพิการ 2 พี่น้องนางสมบัติกับนายทัด คำผาย ที่พิการเดินได้แต่ไม่คล่อง และพิการทางสมอง มาอาศัยอยู่ด้วย ช่วยเข็นรถ พยุง และช่วยงานอื่น ๆ
ครอบครัวพิลากุล เล่าต่อว่า เบี้ยคนชรา และเบี้ยคนพิการ จะใช้จ่ายประกันชีวิต และฌาปนกิจครึ่งหนึ่ง ที่เหลือก็ใช้จ่ายไม่พอ นายอินแปลง-นายทองแดง-นายทัด ต้องออกร้องเพลงแลกเงินตามตลาดนัด โดยนายทัดฯจะช่วยนายอินแปลงและนายทองแดง ขึ้น-ลงรถและเดินทางไปในตลาด ขณะที่นายทองแดงฯทำหน้าที่โชเฟอร์ ขับรถปิกอัพเก่า ๆ ไปที่หมาย โดยมีนายอินแปลงฯเป็นคนร้องเพลง เหมือนกับนิทานพื้นบ้านอีสาน "ตาบอด-ขาติด" เล่าเรื่องราวชีวิตคนพิการที่ช่วยเหลือกัน
กล่าวขอบคุณนายปรีชาฯ และครอบครัว ที่เข้ามาช่วยเหลือ ไม่คิดมาก่อนว่าจะช่วยมากขนาดนี้ ทั้งสร้างบ้านให้และตั้งชื่อว่า "บ้านพุทธรักษา" บ้านที่พระพุทธเจ้ารักษา เพราะนับวันทุก ๆ คน ก็อายุมากขึ้น ร่างกายก็อ่อนแอลงไปตามสภาพ ต่างจากหลายปีก่อนแม้พิการ แต่ก็ยังมีเรี่ยวแรงออกไปได้ ไม่นานก็คงจะออกไปร้องเพลงไม่ได้แล้ว รับปากว่าทุกคนในครอบครัวจะดูแลซึ่งกันและกัน จะใช้จ่ายเงินให้คุ้มค่าที่สุด นายปรีชา ชัยรัตน์ เปิดเผยว่า พี่ชายคนโตของครอบครัวพิมพากุล เขียนจดหมายส่งไปรษณีย์ ไปหาตนที่โรงงานน้ำตาล เพื่อขอความช่วยเหลือ แล้วเล่าเรื่องความเดือดร้อนให้ฟัง จึงรบกวน พล.ต.ต.เสริมศักดิ์ฯ ตรวจสอบว่าเป็นความจริงหรือไม่ เมื่อรู้ว่าเขาเดือดร้อนจริง ถามว่าอยากจะให้ช่วยอะไร เขาถ่ายภาพบ้านมาให้ดู แล้วบอกว่าอยากได้บ้าน เมื่อช่วยกันออกแบบแล้วราคาราว 400,000 บาท ก็ตัดสินใจสร้างบ้านให้ วันนี้บ้านสร้างเสร็จเขาขอให้มามอบ ก็ซื้อเตาแก๊ส กับตู้เย็นมาให้ด้วย
"ครอบครัวนี้มีแม่ที่ชรามาก ลูกพิการจากโปลิโอทั้ง 3 คน ได้เบี้ยคนพิการเดือนละ 800 บาท มีลูกชายคนกลางกับน้องอีกคน ไปร้องเพลงตามตลาดนัดหาเงิน เหมือนกับเคยได้ยินในนิทาน ได้คุยกับเขาแล้วบอกว่า จะช่วยเหลือเป็นเงินสัปดาห์ละ 2,500 บาท เป็นค่าใช้จ่ายดูแลกันในครอบครัว เหลือก็เก็บสะสมไว้ของที่อยากได้ ไม่ต้องไปคิดว่าจะไปทำอะไร ร่างกายทุกคนในครอบครัวก็ไม่ค่อยสมบูรณ์ปกติอยู่แล้ว ซึ่งผมจะช่วยจนกว่าจะตายจากกัน แต่ก็ไม่รู้ว่าเราหรือเขาจะไปก่อน"