"ประยุทธ์" ขอบคุณจิตอาสาช่วยงานพระบรมศพตลอด 1 ปี

         22 ก.ย. 60 - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. กล่าวในรายการศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ตอนหนึ่งว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานพระราชานุญาต ให้ประชาชนได้เข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ตั้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 2559 และบัดนี้ สำนักพระราชวังได้มีประกาศขอเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ในวันที่ 30 กันยายน 2560 นี้ เป็นวันสุดท้าย ทั้งนี้เพื่อจะได้ดำเนินการจัดเตรียมการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ให้สมพระเกียรติต่อไป

         "ผมขอแสดงความชื่นชมพี่น้องประชาชน จากทุกภาคส่วน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกศาสนา ทั่วฟ้าเมืองไทย ใต้ร่มพระบารมี โดยเฉพาะจิตอาสาที่ได้ร่วมกันทำดีเพื่อพ่อ" ถวายแด่ พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัยตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าถวายสักการะพระบรมศพ จำนวนกว่า 10 ล้านคน สำหรับห้วงเวลาที่เหลืออยู่ อีกประมาณ 1 เดือน นับจากวันนี้ เราทุกคน ยังคงมีงานขั้นสุดท้ายสำหรับภารกิจร่วมกันครั้งนี้ ทั้งในส่วนตนและในส่วนรวม อาทิ การปลูกดอกดาวเรือง หรือดอกไม้ที่มีสีเหลือง ณ ที่พักอาศัย อาคารสถานที่ต่างๆ เพื่อให้ออกดอก เบ่งบาน ทั่วแผ่นดิน" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

         พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในช่วงพระราชพิธีสำคัญนี้ ไปจนถึง การซักซ้อมการปฏิบัติ ในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะในขบวนพระราชอิสริยยศ ซึ่งเรียกว่าริ้วขบวนตามโบราณราชประเพณี ให้มีความพร้อมและงดงามประหนึ่งราชรถเคลื่อนบนหมู่เมฆ ส่งเสด็จสู่สวรรค์ อันจะเป็นภาพความทรงจำ ที่จะถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย และของโลก ในการเดียวกันนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชวินิจฉัยให้รัฐบาลดำเนินการก่อสร้างพระเมรุมาศจำลอง ทั่วประเทศ ด้วยทรงห่วงใยว่า ประชาชนจำนวนมากจะไม่สามารถเดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ได้ จึงมีพระราชประสงค์ให้ทุกคน ได้มีโอกาสถวายความจงรักภักดี แด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นครั้งสุดท้าย อย่างทั่วถึง โดยควรจะได้สัมผัสบรรยากาศ และความรู้สึกเดียวกันอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วทั้งประเทศ 

         พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีจึงได้มีมติ เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ในการจัดสร้างพระเมรุมาศจำลอง รวมจำนวน 85 แห่ง  ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมจำนวน 9 แห่ง ในส่วนภูมิภาค จำนวน 76 จังหวัดๆ ละ 1 แห่ง โดยผลการดำเนินงานในปัจจุบันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เป็นไปตามแผน และมีความก้าวหน้าไปมาก รวมทั้งได้จัดให้มีพิธีบวงสรวงนพปฎลสุวรรณฉัตร (ฉัตรทอง 9 ชั้น) เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนยอดพระเมรุมาศจำลอง ทั้ง 85 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งทั้งหมดกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 15 ตุลาคมนี้

         ทั้งนี้ประชาชนในต่างจังหวัดสามารถร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ ที่พื้นที่ซึ่งทางจังหวัดของตนกำหนดได้เช่นกัน ตามความสมัครใจ ซึ่งทุกจังหวัดและอำเภอ ได้จัดทำแผนอำนวยความสะดวก ให้แก่ประชาชน ที่จะมาร่วมพิธีถวายดอกไม้จันทน์ อาทิ อาหาร น้ำดื่ม ห้องน้ำ แพทย์ พยาบาล การรักษาความปลอดภัย รวมทั้งระบบการจราจร เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อให้การแสดงความอาลัย และความจงรักภักดี ในวันที่ 26 ตุลาคม 2560 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย.