โดยการใช้กำไล EM ในการปล่อยชั่วคราวที่ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ประกันตัวนั้น ขณะนี้จะใช้ทั้งกลุ่มคดีต้องโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และอัตราโทษสูงกว่านั้น ซึ่งก่อนการใช้กับผู้ต้องหาหรือจำเลยรายใด อาจจะมีการประเมินความเสี่ยงการหลบหนีด้วยว่ามีมากน้อยเพียงใด
โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวถึงศูนย์ควบคุมและติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring Center) ว่า จะตั้งอยู่ที่บริเวณอาคารจอดรถสำนักงานศาลยุติธรรม ถ.รัชดาภิเษก ซึ่งศูนย์ดังกล่าวภายในจะติดตั้งระบบจอภาพจำนวนมากเพื่อแสดงพิกัดของผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ใส่กำไล EM ว่าตำแหน่งที่อยู่คือจุดใด ออกนอกพื้นที่หรือไม่ ภายในห้องลักษณะคล้ายศูนย์ปฏิบัติการจราจรขนาดใหญ่ โดยจะติดตามดูพิกัดตำแหน่งในของกำไล EM ที่ใช้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
ทั้งนี้ การเฝ้าติดตามจะมีเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมประจำศูนย์ปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง จัดเวร 3 ผัดๆละ 8 ชั่วโมง โดยหากพบกรณีที่ผู้สวมกำไล EM ออกนอกเส้นทาง เจ้าหน้าที่จะเริ่มติดต่อกับผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นทันทีว่าเหตุใดจึงอยู่นอกพื้นที่ หากติดต่อไม่ได้เจ้าหน้าที่จะติดต่อกับผู้ที่รับหน้าที่ควบคุมให้ติดตาม และถ้าไม่ได้ สุดท้ายจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่นั้นติดตามตัวซึ่งหากพบว่าผู้ต้องหาหรือจำเลยนั้นถอดเครื่องหนีหายไป เจ้าหน้าที่จะทำรายงานเสนอศาลเพื่อขอออกหมายจับทันที
เมื่อถามว่า ในการใช้กำไล EM เป็นอีกทางเลือกของการทำให้กระบวนการปล่อยชั่วคราวของศาลยุติธรรมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ก่อให้เกิดการผิดสัญญาประกัน จะมีการพัฒนาไปใช้ในคดีนักการเมืองหรือไม่นายสืบพงษ์ กล่าวว่า ก็มีโอกาสพัฒนาได้ในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพิธีเปิดห้องศูนย์ควบคุมและติดตามการปล่อยตัวชั่วคราวโดยใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Monitoring Center) นั้น สำนักส่งเสริมงานตุลาการ จะจัดพิธีขึ้นในวันที่ 27 ก.ย.60 เวลา 13.00-14.00 น. ณ ห้องศูนย์ควบคุมฯ ที่ตั้งขึ้นบริเวณ อาคารจอดรถสำนักงานศาลยุติธรรม ชั้น 1 ถ.รัชดาภิเษกโดยมีนายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานในพิธี รวมทั้งร่วมรับฟังการแถลงผลการดำเนินงานเกี่ยวกับการยื่นและส่งคำคู่ความทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-filing) เวลา 14.00 16.30 น. ณ ศูนย์วิทยบริการศาลยุติธรรม อาคารศาลอาญา ชั้น 6 ถ.รัชดาภิเษกด้วย.