โครงการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้จากการปนเปื้อนสารตะกั่ว เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวานนี้ โดยมีกรมควบคุมมลพิษ ตัวแทนกรรมการไตรภาคี / นักวิชาการ / ผู้แทนสาธารณสุข / ผู้แทนจากกรมทรัพยกรน้ำ และชาวบ้านตำบลชะแล อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี เข้าร่วม เพื่อรับฟังแนวทางการฟื้นฟูลำห้วยคลิตี้ที่ได้รับผลกระทบมานานถึง 19 ปีเต็ม
คุณสุวรรณ นันทศรุต รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ บอกว่า หลังจากลงนามว่าจ้าง บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จํากัด (มหาชน) ให้ดําเนินการฟื้นฟูลําห้วยคลิตี้ ในกำหนดระยะเวลา 1,000 วัน ใช้งบประมาณกว่า 460 ล้านบาทนั้น การฟื้นฟูจะใช้วิธีขุดลอกลำห้วยคลิตี้ และฟื้นฟูพื้นที่ปนเปื้อนรอบๆ โรงแต่งแร่เดิม รวมทั้งการก่อสร้างหลุมฝังกลบแบบปลอดภัย และการก่อสร้างฝายดักตะกอนปนเปื้อนสารตะกั่ว ยืนยันว่าโครงการฟื้นฟูจะดำเนินการได้ตามแผนที่วางไว้
ขณะที่รายงานผลการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณห้วยคลิตี้ ครั้งที่ 2/2560 เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ยังพบสารตะกั่วปนเปื้อนในแหล่งน้ำอยู่ในระดับสูง จึงขอให้ชาวบ้านปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด คืองดการบริโภคสัตว์น้ำบางชนิด เช่น หอย และปู ในลำห้วยคลิตี้
ผลการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อม ยังพบข้อมูลเพิ่มเติมว่า สัตว์น้ำในลำห้วยที่อาศัยอยู่เหนือตะกอนท้องน้ำ พบปริมาณตะกั่วสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานอาหาร จึงควรหลีกเลี่ยงการบริโภค โดยนอกจากปูและหอยที่ห้ามบริโภคเด็ดขาดตามที่บอกไปแล้ว ยังมีปลา ที่สามารถบริโภคได้เฉพาะส่วนเนื้อ หลีกเลี่ยงส่วนเครื่องใน พืชผักส่วนใหญ่บริโภคได้ ยกเว้นยี่หร่า ใบชะพลู
ด้านตัวแทนชาวบ้านคลิตี้ หนึ่งในโจทก์ที่ยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทตะกั่ว บอกว่า ที่ผ่านมาไม่สามารถหลีกเลี่ยงการบริโภคสัตว์น้ำ และการใช้น้ำในลำห้วยได้ การตรวจสุขภาพก็ยังพบสารตะกั่วในเลือด และยังไม่มั่นใจว่าโครงการนี้จะเริ่มได้ตามแผนหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาเหมือนถูกหลอกมาหลายครั้ง ส่วนการได้รับเงินเยียวยาของชาวบ้าน 151 คน อยู่ระหว่างการติดตามเรื่อง ยอมรับว่ากังวลจะได้เงินเยียวยาล่าช้า แต่เงินที่ได้มายังไม่สำคัญเท่ากับการฟื้นฟูลำห้วยให้กลับคืนมาเหมือนเดิม