ผู้ประกอบการรวมตัวค้าน ไม่เอาร้านสะดวกซื้อ เปิดแทนร้านสวัสดิการโรงพยาบาล

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 23 สิงหาคม 2560 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ มทบ.23 นายธนโชติ รุ่งรวยทรัพย์ ผู้จัดการร้านค้าสวัสดิการในโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น พร้อมผู้ประกอบการรายย่อยเข้ายื่นหนังสือร้องเรียน โดยมี พ.อ.ยุสชนา ตระกูลเสนาธง หัวหน้ากองกิจการพลเรือน มทบ.23 เป็นผู้รับหนังสือ
นายธนโชติ กล่าวถึงการเข้าร้องเรียนในครั้งนี้ว่า เป็นผู้จัดการร้านค้าสวัสดิการในโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่นมา 15 ปี การดำเนินกิจการมาจากการประมูลแข่งขัน หากประมูลได้ก็ทำสัญญาคราวละ 5 ปี ซึ่งได้เข้าร่วมประมูลมาทั้งหมด 3 ครั้ง ได้ทุกครั้ง รวม 15 ปี โดยสัญญาครั้งสุดท้ายหมดไปเมื่อเดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมา
ในร้านค้าสวัสดิการที่เปิดบริการมา 15 ปีนั้น จะมีผู้ค้ารายย่อย (SME) ซึ่งเป็นประชาชนในพื้นที่ผลิตอาหาร ขนม ของฝาก มาวางจำหน่ายประมาณ 200 ราย เมื่อหมดสัญญา รพ. ต้องประกาศให้ผู้ค้ารายเดิมทราบ เพื่อเปิดประมูลใหม่ แต่ในครั้งนี้ไม่มีการประกาศให้ทราบ ทั้งยังทราบว่ามีการสรรหาผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาค้าขายใน รพ. ประเภทร้านสะดวกซื้อที่เป็นร้านโมเดิร์นเทรด ทางโรงพยาบาลจะให้ใครมาขายก็ไม่ว่า แต่การดำเนินการทุกขั้นตอนต้องเปิดประมูลอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม หากทางร้านประมูลแพ้ก็ต้องยอมรับ แต่ในครั้งนี้ทางโรงพยาบาลทำไม่ถูกต้อง จึงเข้าร้องเรียนที่ศูนย์ร้องทุกข์ เพื่อตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐให้ด้วย
นายสันติ บิลชัย อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/110 ม.3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ผลิตเบเกอรี่ส่งขายที่ร้านค้าสวัสดิการใน รพ.ศูนย์ขอนแก่น กล่าวว่า อยากให้ผู้บริหารโรงพยาบาลมีการเปิดประมูลอย่างถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาก็ทำแบบนี้หารายใหม่โดยวิธีการเปิดกว้าง ไม่ริดรอนสิทธิของผู้อื่น เพราะผู้ประกอบการรายใหม่ต้องทำตามสัญญา แต่หากทางโรงพยาบาลใช้วิธีเชิญผู้ประกอบการร้านสะดวกซื้อ เข้ามาดำเนินการขายโดยไม่มีการประมูล ก็จะเกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อย เพราะร้านสะดวกซื้อต่างก็มีคู่ค้าอยู่แล้ว ผู้ประกอบการายย่อยไม่มีสิทธิ์เข้าไปวางขายสินค้าในร้านสะกวดซื้อได้เหมือนร้านค้าสวัสดิการ จึงอยากให้ รพ. พิจารณาให้รอบคอบ ประกาศหาผู้ประกอบการรายใหม่ ด้วยวิธีประมูลอย่างเป็นธรรม ตามระเบียบของทางราชการ
นอกจากนี้ในหนังสือร้องเรียนยังระบุว่า ที่บริเวณโดยรอบโรงพยาบาลมีร้านสะดวกซื้อที่เป็นโมเดิร์นเทรด 2 เจ้า รวม 4 สาขา ซึ่งตั้งห่างจากรั้วโรงพยาบาลแค่ 10 เมตรเท่านั้น