พล.ต.อ.อัศวิน บอกว่า ป้อมพระสุเมรุและป้อมมหากาฬ เป็นป้อมรักษาพระนครที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน โดย กทม.ได้กำหนดจัดกิจกรรมพัฒนาป้อมทั้ง 2 ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายจากกรมศิลปากร ให้รับผิดชอบดูแลบำรุงรักษาโบราณสถาณ โดยเริ่มพัฒนาป้อมมหากาฬเป็นอันดับแรกก่อนจะไปพัฒนาป้อมพระสุเมรุต่อไป
ทั้งนี้ป้อมหากาฬ ซึ่ง กทม.ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้เดินหน้าจัดระเบียบพื้นที่ โดยที่ผ่านมาได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมหารือเพื่อพิสูจน์คุณค่าบ้านภายในชุมชมป้อมมหากาฬ ในการพิจารณากรอบการอนุรักษ์ในด้านต่างๆ 5 ด้าน ประกอบด้วยคุณค่าในเชิงประวัติศาสตร์ เชิงศิลปกรรม สถาปัตยกรรมและผังเมือง เชิงสังคมและวิถีชีวิต เชิงโบราณคดีและการตั้งถิ่นฐาน และคุณค่าอื่นๆ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการรวบรวมเอกสารและข้อสรุปในการประชุมแต่ละครั้งเพื่อเสนอให้รัฐบาลใช้ประกอบการตัดสินใจต่อไป
สำหรับแนวทางการพัฒนาป้อมทั้งสอง กทม.ได้ดำเนินการตามข้อพึงระวังที่กรมศิลปากรได้ฝากไว้ในการทำความสะอาดพื้นผิวป้อมภายนอก จากนั้นยังมีการกำจัดวัชพืชและสิ่งกีดขวางในเขตพระราชทาน เพื่อให้มีความสะอาดเรียบร้อยและป้องกันความเสียหายหรือการเสื่อมสภาพที่อาจเกิดขึ้น รวมทั้งอาจมีการใช้น้ำยากันตะไคร่สูตรน้ำเพื่อฉีดเพื่อกันน้ำซึมและป้องกันความชื้นสะสมบริเวณพื้นผิว ส่วนการตัดกิ่งไม้ต้องระวังไม่ให้เกิดผลกระทบ ต่อโบราณสถาณเป็นต้น