svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ป.ป.ช."ฟัน"อดีตเด็กเพื่อไทย" ร่ำรวยผิดปกติ 21 ล้าน ชง"อสส."ฟ้องศาลฯยึดทรัพย์

27 กรกฎาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ป.ป.ช." ชี้มูลความผิด "เกษม" ครั้งนั่ง "รองนายกฯอบจ.เชียงใหม่" ร่ำรวยผิดปกติ 21 ล้าน จ่อชง "อสส." ฟ้อง "ศาลฎีกาฯ" ให้ตกเป็นของแผ่นดิน อีกรอบหลังเจ้าตัวโดนฟัน ปม ทรัพย์สินเพิ่มผิดปกติ 168 ล้าน ครั้งเป็นส.ส.

27 ก.ค.60 ที่สำนักงานคณะกรรมการป.ป.ช. นายสรรเสริญ พลเจียกเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงรวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินนายเกษม นิมมลรัตน์ ครั้งดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย แล้วมีมติว่านายเกษม มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ตามมาตรา 38 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ. 2542 รวมมูลค่า 186,620,637.76 บาท ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาในคดีให้ทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นผิดปกติรวมมูลค่า 168,453,245.70 บาทตกเป็นของแผ่นดินตามพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 4 มาตรา 38 และมาตรา 83 แล้วนั้น

นายสรรเสริญ กล่าวว่า ต่อมาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณารายงานผลการตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงรวมทั้งความเปลี่ยนแปลงของทรัพย์สินและหนี้สินของนายเกษมในตำแหน่งรองนายกอบจ.เชียงใหม่ และเลขานุการนายกอบจ.เชียงใหม่แล้วมีมติว่านายเกษม มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ตามมาตรา 38 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในกรณีพ้นจากตำแหน่งรองนายกอบจ.เชียงใหม่ รวมมูลค่า 21,140,746.50 บาท ตามรายการดังต่อไปนี้ 1. ที่ดินที่อยู่ในชื่อของนายเกษม จำนวน 2 แปลง มูลค่าขณะได้มา 11,865,000 บาท คือที่ดินโฉนดเลขที่ 11777 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เนื้อที่ 3 งาน 96.4 ตารางวา และที่ดินโฉนดเลขที่ 11783 ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เนื้อที่ 3 งาน 95 ตารางวา 2.เงินลงทุนในการซื้อหุ้นบริษัท แอสคอน คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) (ASCON)ที่อยู่ในชื่อของนางดวงสุดา นิมมลรัตน์ คู่สมรส จำนวน 61,838,310 หุ้น มูลค่าขณะได้มาหุ้นละ 0.15 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม 9,275,746.50 บาท

นายสรรเสริญ กล่าวว่า คณะกรรมการป.ป.ช.จึงมีมติให้ส่งเอกสารพร้อมรายงานผลการตรวจสอบไปยังอัยการสูงสุด (อสส.)เพื่อดำเนินคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพื่อให้ทรัพย์สินของนายเกษม และนางดวงสุดา ที่เพิ่มขึ้นผิดปกติตามรายการดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน ทั้งนี้ หากไม่สามารถบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินของนายเกษมตกเป็นของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้วให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของนายเกษม ตามนัยมาตรา 83 ของกฎหมายป.ป.ช.ด้วย

logoline