นอกจากนี้มวลน้ำยังทะลักเข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือนภายในหมู่บ้าน บ้านพักคนงานที่สร้างถนนสายเลี่ยงเมืองหรือบายพาสบายวงแหวนตะวันของ จ.เชียงราย ในเขต 2 หมู่บ้านคือ ม.4 และ ม.8 ต.สันทราย มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมประมาณ 100 หลังคาเรือน โดยเฉพาะภายในซอยขุนพล ม.8 ชาวบ้านต้องเดินเท้าออกมาทำงานนอกหมู่บ้าน ขณะมวลน้ำภายในลำน้ำแม่กรณ์ยังคงเจิ่งนองเพราะมีถนนสายบายพาสขวางทางน้ำทำให้การไหลของน้ำถูกบีบให้ไหลไปได้เพียงในลำน้ำแม่กรณ์ที่มีสะพานลอดใต้ถนนสายดังกล่าวเพียงจุดเดียว
หลังเกิดเหตุ พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 สั่งการให้ พ.อ.ปิยวุฒิ โลสุยะ รองเสธฯ นำกำลังพลทหารไปร่วมกับชาวบ้านนำโดยนางพัชรินทร์ สุภาวรรณ์ สมาชิกสภาเทศบาล ต.สันทราย นำทรายบรรจุกระสอบฟางแล้วขนไปด้วยเรือท้องแบนของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.เชียงราย เพื่อนำไปถมพนังที่ถูกน้ำทะลักจนเป็นรูโหว่โดยทางเจ้าหน้าที่ได้นำเสาไม้ไปปักเพื่อเป็นแนววางกระสอบทรายโดยใช้เวลาตลอดทั้งวัน
นางพัชรินทร์ กล่าวว่า ตนอาศัยอยู่ในพื้นที่แห่งนี้มานานกว่า 50 ปีไม่เคยมีน้ำท่วมในลักษณะนี้มาก่อนเพราะนอกจากลำน้ำแม่กรณ์แล้วยังมีแหล่งน้ำเล็กๆ ตามธรรมชาติและทุ่งนาคอยระบายมวลน้ำให้ไหลผ่านไป แต่ปีนี้พบว่าเมื่อฝนตกหนักลงมาน้ำก็ถูกบีบจนไหลในลำน้ำแม่กรณ์เพียงเส้นทางเดียวทำให้ไหลเชี่ยวและกัดเซาะพนังจนพังทลายโดยครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้วหลังจากเมื่อ 1-2 วันก่อนเคยพังจนต้องซ่อมมาแล้วครั้งหนึ่ง
ขณะเดียวกัน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และพล.ต.บัญชา ได้ไปตรวจสอบพื้นที่ อ.เวียงชัย เพื่อแก้ไขปัญหากรณีผักตบชวาขวางทางน้ำแม่สะกึ๋นและฝายคอนกรีตกั้นลำห้วยหนองหลวงจนน้ำทะลักเข้าท่วมไร่นากว่า 1,000 ไร่ บางจุดลึกกว่า 1 เมตร พื้นที่บ้านร่องหวาย บ้านใหม่นานวา บ้านหัวดง และบ้านร่องปลาขาว ต.ห้วยสัก อ.เมือง โดยได้มีการนำรถแบ็คโฮจากหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 35 กองบัญชาการกองทัพไทย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ร่วมกับชาวบ้านทำการขุดลอกตลอดทั้งวันเพื่อรองรับฝนที่จะตกลงมา