ตลาดนัดชายแดนซบเซาหนัก จากยอดขายอาทิตย์ละ 4-5 หมื่น เหลือแค่วันละพันห้า!

เมื่อวันที่ 16 ก.ค.60 ที่ตลาดนัดทับทิบสยาม 03 ชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องทางเข้า-ออก บริเวณจุด ตชด.03 หรือ ช่องตะแบง ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทุกวันอาทิตย์ตลาดนัดแห่งนี้ จะมีพ่อค้าชาวไทยจากพื้นที่ต่าง ๆ หลายร้อยรายนำสินค้านานาชนิด ทั้งเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค ผัก ผลไม้ พืชผลทางการเกษตร และอาหาร ไปค้าขายกันอย่างคึกคักตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีชาวบ้านจากฝั่งประเทศกัมพูชา ซึ่งมีอยู่หลายพันครัวเรือนเดินทางเข้ามาจับจ่ายซื้อสิ้นค้าจำนวนมาก จนกลายเป็นช่องทางการค้าที่มีประชากรหนาแน่นจุดหนึ่ง และมีการจับจ่ายแลกเปลี่ยนสินค้ากันเป็นเงินมหาศาลต่อเดือน จนกระทั่งประเทศไทยประกาศใช้ พรก.แรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ และมีการจับกุมชาวกัมพูชาเพื่อผลักดันกลับประเทศจำนวนมาก ส่งผลให้ทางการกัมพูชาประกาศปิดช่องผ่านแดนอนุโลมทั้งหมด 43 จุด เพื่อตอบโต้รัฐบาลไทย ล่าสุด กระทบชาวบ้านที่ค้าขายชายแดนอย่างหนัก
นายสุคนธ์ โสดานัด พ่อค้าขายของใช้พลาสติก-ขนมขายส่ง ชาวบุรีรัมย์ บอกว่า ไม่ไหวแล้ว อยากให้แก้ปัญหาเรื่องปิดชายแดนให้เร็วที่สุด เพราะชาวบ้านจะอดตายกันอยู่แล้ว กระทบไปหมด เคยขายของได้สัปดาห์ละ 40,000-50,000 บาท วันนี้ขายของได้แค่ 1,500 บาท จะเอาอะไรกินพ่อค้าคนทำมาหากิน เขามาซื้อของกันไม่ได้ เพราะไปปิดด่าน คนขายก็เดือดร้อน คนฝั่งโน้นเขาก็อยากจะเข้ามาซื้อ จะแก้อย่างไรก็ให้รีบแก้กันเถอะ
" เดินทางมาจากบุรีรัมย์ตั้่งแต่ตี 3 เพื่อมาตั้งเต้นท์ขายของ แล้วเป็นแบบนี้มาเกือบ 1 เดือนแล้ว ไม่มีเขมรมาซื้อของเลย แล้วพวกเราจะขายให้ใคร " นายสุคนธ์ กล่าว
นายสุพจน์ ยางนอก อายุ 62 ปี พ่อค้าชาวเสิงสาง กล่าวว่า ไม่เคยขายของตกต่ำขนาดนี้มาก่อนเลย จากเมื่อก่อนซึ่งยังไม่มีการปิดด่าน อย่างน้อยก็ขายได้วันละ 2,500-3,000 บาท วันนี้ตนขายได้แค่ 300 บาท ยังไม่พอค่าน้ำมันที่ขนของมาจาก อ.เสิงสาง จ.บุรีรัมย์เลย ไม่รู้จะพูดอย่างไร ถ้าใครรับผิดชอบก็อยากให้เร่งแก้ไขด้วย
นางจินดา วิชัยวงศ์ อายุ 50 ปี แม่ค้าขายขนมนางเล็ด-กระยาสารท ชาวตาพระยา บอกว่า สภาพตลาดไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่ขายมา 2 ปี ทุกอาทิตย์จะขายขนมพวกนี้ได้วันละ 10,000 กว่าบาทต่อวัน ทอดทั้งวันไม่หยุด วันนี้ขายได้ 500 บาทยังไม่ถึงเลย ใช้น้ำมันทอดไปแค่ 1 ขวดเท่านั้น เนื่องจากไม่มีคนมาซื้่อของเลย อยากให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนเหมือนเดิม อย่างน้อยถ้าจะปิด ก็ขอให้เปิดให้ชาวเขมรเข้ามาซื้อของได้เฉพาะวันอาทิตย์ก็ยังดี ตอนนี้ตนเองไม่มีเงินส่งค่างวดรถแล้ว เพราะเป็นมาเกือบจะอาทิตย์ที่ 4 แล้ว
ส่วน นายสมนึก ตาพะยุง อายุ 57 ปี ชาวอรัญประเทศ บอกว่า ปกติจะขายของได้ประมาณ 7,000-8,000 บาทต่อนัดวันอาทิตย์ วันนี้ตนขายของได้แค่ 1,000 กว่าบาท เนื่องจากคนน้อยมาก จากปกติจะมีคนฝั่งกัมพูชาเดินทางข้ามฝั่งมาเพื่อซื้อของไปใช้กันเป็น 1,000 คน ตอนนี้มีแค่คนไทย แทบจะไม่ถึง 100 คนมาเดินตลาด ก็เลยขายของกันไม่ได้เลย เพราะคนเขมรเขาซื้อของกันเยอะ ส่วนใหญ่จะซื้อไปเก็บ หรือไว้ใช้กันเป็นอาทิตย์เป็นเดือน พอเขาเข้ามาไม่ได้เพราะเขมรปิดด่าน ยอดขายก็ลดฮวบ
นายสมนึก บอกว่า สาเหตุของการปิดด่านเพราะ เขมรต้องการประท้วงไทย ที่ประกาศใช้ พรก.แรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ ซึ่งเขาว่าโทษแรงมาก ทำให้มีการเลิกจ้างและส่งกลับแรงงานเขมรจำนวนมาก จึงอยากให้รัฐบาลแก้ปัญหานี้ให้เบ็ดเสร็จ
ทางด้าน นายทวน เส็งประโคน อายุ 43 ปี พ่อค้าขายมะพร้าวสด บอกว่า ปกติแบกไปส่งลูกค้ากันทั้งวัน และนำมาขายจำนวนหลายรถต่อนัด ตอนนี้เหลือแทบจะเต็มรถ อยากให้เปิดสักที ชาวบ้านเดือดร้อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการเดินสำรวจตลาดตั้งแต่ช่วงเช้าจนบ่าย พบว่า ภายในตลาดนัดทับทิบสยาม 03 ชายแดนไทย-กัมพูชา ช่องตะแบง ต.ทัพไทย อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว พบว่า ภายในตลาดมีแต่พ่อค้าแม่ค้าวางขายของเต็มพื้นที่ และลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนไทยในพื้นที่เดินจับจ่ายซื้่อของอย่างบางตา สอบถามผู้ค้าทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "ขายของไม่ได้เลย อยากให้เปิดด่านซะที"
ทางด้าน ร.อ.ทองทศ มากสาคร รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว และรองประธานธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้ว ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า ปัญหาพวกนี้เกิดจากทางฝั่งเขมรแก้เผ็ดประเทศไทย ไม่พอใจที่ประเทศไทยประกาศใช้ พรก.แรงงานต่างด้าวฉบับใหม่ เพราะมีผลกระทบต่อคนเขมรมาก ดังนั้น ระดับนโยบายจะต้องไปเจรจาเพื่อขอให้มีการเปิดจุดผ่อนปรน จุดอนุโลมต่าง ๆ ตามแนวชายแดน ให้คนเขมรสามารถเข้ามาซื้อของจับจ่ายสินค้าได้เหมือนเช่นปกติ เพราะการปิดตอนนี้ไม่ใช่ประเทศไทยปิด แต่เป็นฝ่ายเขมรที่ปิดด่านและไม่ให้คนของเขาข้ามฝั่งมา
"คนเขมรเขาก็เดือดร้อน เพราะเขาใช้สินค้าไทยและเครื่องอุปโภคบริโภคของไทยถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนไทยก็เดือดร้อน ขายของไม่ได้ จะทำอย่างไรเพื่อให้ไม่มีใครเดือดร้อน สามารถค้าขายกันได้เป็นปกติ ตลาดนัดบริเวณหมู่บ้านทับทิมสยาม 03 เท่าที่ได้รับรายงาน มีการค้าขายที่คึกคักเงินสะพัดจำนวนมาก ฉะนั้น คนที่บริหารจะต้องกล้าติดสินใจ เพราะจุดต่าง ๆ ผู้ว่าราชการจังหวัดมีอำนาจดูแลได้เลย" รองประธานธรรมาภิบาลจังหวัดสระแก้วกล่าว