กรมป่าไม้ไฟเขียว ผู้ว่าฯ ใช้ดุลยพินิจ ตัด"ไม้พะยูง"กรณีภัยพิบัติได้

วันนี้(4 ก.ค.2560) นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ บอกว่า จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติงกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องความล่าช้าในการแก้ปัญหากรณีต้นพะยูงล้มทับบ้านชาวบ้านใน จ.กาฬสินธุ์ นาน 3 เดือนไม่สามารถตัดออกได้ โดยยอมรับว่าเกิดความล่าช้า ขึ้นในขั้นตอนดำเนินการ เนื่องจากไม้พะยูง เป็น 1 ใน 16 ชนิดที่กำหนดในบัญชีไม้หวงห้ามประภท ก.ตามมาตรา 7 ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ทำให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบไม่สามารถตัดไม้หวงห้ามได้เอง
อธิบดีกรมป่าไม้ บอกว่า ขณะนี้ทางกรมป่าไม้ ได้ทำหนังสือแจ้งเวียนไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติในการทำไม้หวงห้ามประเภท ก.ในที่ดินกรรมสิทธิ์ สิทธิ์การครอบครองในที่ดินของรัฐกรณีเกิดภัยธรรมชาติหรือเหตุจำเป็น หากมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ให้ใช้ดุลยพินิจในการแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นลำดับแรก แต่ต้องมีการลงบันทึกประจำวันและหลักฐานเพื่อให้สามาถเคลื่อนย้ายไม้ได้
ส่วนระยะยาวจะต้องมีการออกระเบียบใหม่ เนื่องจากในพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 13 และมาตรา 18 ให้อำนาจรัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งอยู่ระหว่างเสนอกระทรวงให้เกิดความชัดเจน โดยอาจให้ผู้แทนหรือมอบอำนาจให้ดำเนินการได้เพื่อลดความล่าช้า ตรงนี้อาจต้องรวมถึงไม้ในพื้นที่สาธารณะ นอกจากนี้ยังอยู่ในขั้นตอนเสนอปรับแก้กฎกระทรวงเกี่ยวกับการทำไม้พะยูงและไม้หวงห้าม ให้ระเบียบสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (3 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ ได้พูดถึงความล่าช้าในการแก้ปัญหาไม้พะยูง ล้มทับบ้านจนมีการร้องออกสื่อ และสื่อก็ขยายท้ายที่สุดก็รังแกคนจน เอื้อผลประโยชน์คนรวย จึงตำหนิกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และท้งถิ่นว่าควรจะพิจารณาแก้ปัญหาได้เร็วกว่านี้
สำหรับไม้หวงห้ามประเภท ก.ตามมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มี 16 ชนิดได้แก่ ไม้สัก ไม้ยาง ไม้ชิงชัน ไม้เก็ดแดง  ไม้อีเม่ง ไม้พะยูงแกลบ ไม้กระพี้ ไม้แดงจีน ไม้ขะยุง ไม้ชิก ไม้กระซิบ ไม้พะยูง ไม้หมากพลูตั๊กแตน ไม้กระพี้เขาควาย ไม้เก็ดดำ ไม้อีเฒ่า และไม้เก็ดเขาควาย