svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

น้องบิ๊ก ไมค์หมดหนี้ อาการทรุด! แฟนแห่ให้กำลังใจยอดบริจาคพุ่งกว่า 4 ล้าน

20 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เพียงข้ามคืนแห่ช่วย "น้องบิ๊ก" อายุ13 ป่วยโรคร้ายตายแล้วฟื้น ยอดบริจาคกว่า 4 ล้านบาทแล้ว ด้านเจ้าตัวอาการทรุด ยอมเข้ารับการรักษาอีกครั้ง

คนแห่ให้กำลังใจน้องบิ๊กวัย13ชัยภูมิตายแล้วฟื้นเด็กยอดกตัญญูหัวใจแกร่งร้องเพลงปลดหนี้ช่วยแม่ เป็นผลสำเร็จ- หลังความหวังของเด็กชายตัวน้อยๆก่อนที่ตัวเองป่วยหนักใกล้จะสิ้นลม ที่ต้องป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายมานานกว่า1ปีพบเนื้อร้ายในแกนสมอง เคยหยุดหายใจมาแล้วถึง 2 ตาย ซึ่งความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ลูกคู่นี้กลับสร้างปาฏิหาริย์ ทำให้น้องตายแล้วฟื้นมาได้ถึง 2 ครั้ง ก่อนที่น้องจะมาทราบว่าผลจากการป่วยของตนเองตลอดระยะเวลากว่า 1 ปีที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ต้องเป็นหนี้สินหาเงินมาช่วยรักษาตนเองจำนวนมาก "น้องบิ๊กจึงขอทำในสิ่งที่ตัวเองยังพอมีแรงจะทำเพื่อช่วยแม่ได้บ้าง ด้วยการขอไปขึ้นเวทีร้องเพลงออกรายการช่วยปลดหนี้ให้แม่เป็นครั้งสุดท้ายก่อนตาย" จนสร้างความชื่นชมถึงหัวใจแกร่งของเด็กตัวน้อยๆรายนี้และต่างพากันให้กำลังใจกับน้องวัย13หัวใจแกร่งยอดกตัญญูรายนี้ช่วยปลดหนี้ให้กับแม่ได้เป็นผลสำเร็จ
ซึ่งหลังจากช่วยปลดหนี้ให้กับแม่ได้เป็นผลสำเร็จแล้ว ตัวน้องเองขอรอความตายอยู่ที่บ้านเกิดตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายกับแม่และไม่อยากที่จะไปหาหมอที่ใดอีก เพราะกลัวว่าจะทำให้แม่เดือดร้อนต้องเป็นหนี้สินตามมาและการเข้ารับการผ่าตัดที่มีความเสี่ยงสูงและอาจจะไม่ได้กลับมาพบหน้าแม่อีก จนล่าสุดทางญาติๆเพื่อนบ้านและแม่ขอให้น้องเดินทางเข้ารักษาอาการป่วยอีกครั้ง ซึ่งล่าสุดตัวน้องเองก็ยอมทำตามคำขอของแม่และพากันเดินทางเข้ารับการรักษาตัวต่อที่รพ.แล้ว และหวังว่าการช่วยรักษาอาการของแพทย์ให้กับน้องในครั้งนี้อีกครั้งจะเกิดปาฏิหาริย์ตามมาอีกครั้งในเร็ววันต่อไป
ล่าสุดวันนี้ ( 20 มิ.ย.60 ) บรรยากาศของลูกสุดยอดเด็กกตัญญุหัวใจแร่ง หรือด.ช.เจษฎา (บิ๊ก) อายุ 13 ปี ที่อยากหาทางช่วยแม่ใช้หนี้ให้แม่ ที่เกิดจากตนเองล้มป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่พบชิ้นเนื้อร้ายในแกนสมอง ยากต่อการรักษาและต้องมีค่าใช้จ่ายสูงต้องเป็นภาระให้กับแม่อีก จนตัวน้องเองเคยหยุดหายใจตายแล้วฟื้นมาแล้วถึง 2 ครั้ง ซึ่งราวกับปาฏิหาริย์เมื่อน้องมีโอกาสฟื้นขึ้นมาได้อีกช่วงกลางปี2560 นี้ที่ผ่านมา

น้องบิ๊ก ไมค์หมดหนี้ อาการทรุด! แฟนแห่ให้กำลังใจยอดบริจาคพุ่งกว่า 4 ล้าน


กลับทำให้หัวใจเด็กชายตัวน้อยๆรายนี้ กลับฟื้นขึ้นมาแข็งแกร่งอีกครั้ง เมื่อทราบว่าที่ผ่านมาตลอดเวลาที่ตัวเองล้มป่วยหนักแม่ต้องมีภาระเป็นหนี้สินไปหาหยิบยืมมาเพื่อเร่งนำมาช่วยรักษาตัวเองเป็นจำนวนมากกว่า 170,000 บาท ซึ่งฐานะทางบ้านก็ไม่มีรายได้อะไรแม่มีอาชีพรับจ้างทั่วไปรายได้บางวันก็ไม่ถึง 300 บาท ทั้งบ้านที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันเลขที่ 66 หมู่ 5 ต.โสกปลาดุก อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิ ในสภาพปูนชั้นเดียวมีห้องรวมเพียงห้องเดียวกว้างเพียงกว่า 4คูณ5 เมตร ไม่มีห้องครัวหลังคาบ้านก็เริ่มเกิดรั่วพุพัง ที่ยังพอมีที่อยู่ได้อาศัยอยู่ร่วมกันหลบแดดฝนรวม 3 คน กับแม่และพี่สาววัย 15 ปี ที่ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้น ม.3 ต้องเป็นภาระอีกคน
และในส่วนของตัวน้องเองหลังป่วยหนักก็ไม่มีโอกาสที่จะเรียนต่อไปได้หลังจบเพียงชั้น ป.6 จึงตัดสินใจบอกแม่ว่าไม่ต้องพาไปหาหมอที่ไหนอีกแล้ว และเวลาถูกผ่าตัดทุกครั้งตื่นขึ้นมาก็ปวดทรมาน จึงไม่อยากจะขอไปรับการผ่าตัดสมองที่ไหนอีกและกลัวว่าจะไม่ได้ตื่นขึ้นมาเห็นหน้าแม่ได้อีก
และทุกวันนี้อาการของน้องก็เริ่มรุนแรงจะปวดศรีษะจนต้องดึงผมตัวเองออกมาเป็นกำๆบ่อยครั้ง จากผลกระทบก้อนเนื้อร้ายที่มีในแกนสมองจนล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาน้องได้บอกกับแม่ว่า อยากจะช่วยปลดหนี้ให้กับแม่เอง ขอให้แม่ไปยื่นใบสมัครในรายการไมค์ปลดหนี้ ให้หน่อย เพื่อจะขอร้องเพลงให้เพลงเป็นครั้งสุดท้าย เพราะไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว ถ้าร้องไม่ได้ ก็ยังพอมีค่าเดินทางกลับบ้านจากรายการอย่างน้อยก็จะได้เงินมาจำนวน 5,000 บาท กลับมาบ้าน แต่ถ้าร้องได้ก็จะช่วยปลดหนี้เงินแสนให้แม่ได้ ซึ่งน้องเองระหว่างเดินทางเข้าออกป่วยอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ที่มีการผ่าตัดสมองมาแล้วกว่า 4 ครั้ง "น้องบิ๊กเองก็พยายามฝึกร้องเพลงที่ตนเองชอบมาตลอด จนพยาบาลที่พบเห็นมาให้กำลังใจว่าเสียงดี

น้องบิ๊ก ไมค์หมดหนี้ อาการทรุด! แฟนแห่ให้กำลังใจยอดบริจาคพุ่งกว่า 4 ล้าน


จึงอยากจะลองไปร้องเพลงไมค์ปลดหนี้ให้กับแม่เป็นครั้งสุดท้ายของชีวิตก่อนที่ตัวเองยังพอมีแรง ก่อนที่จะหมดลมหายใจครั้งสุดท้ายของชีวิตให้กับแม่ได้บ้าง ซึ่งช่วงเย็นในวันที่ 19 มิ.ย.60 ที่ผ่านมาคือวันที่น้องได้รับการถ่ายทอดร้องเพลงออกอากาศในรายการฯ ที่ทุกคนใครที่ได้เห็นภาพของน้องบิ๊กที่ต้องนั่งรถเข็นผู้ป่วยเดินไม่ได้ ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที ต่างต้องพากันถึงกับน้ำตาคลอเบ้า ถึงความหัวใจแกร่งของเด็กชายวัยเพียง 13 ปีเด็กยอดกตัญญูรายนี้ จนมีผู้ใจบุญที่ทราบเรื่องราวชีวิตของน้องที่อยากจะทำเพื่อแม่ อยากช่วยปลดหนี้ให้แม่ เป็นสิ่งสุดท้ายเท่าที่ตัวเองทำได้ของชีวิตก่อนตายที่ร่างกายได้รับผลกระทบจากอาการป่วยของน้องใกล้หมดแรงรวยรินลงทุกที
ในช่วงเวลาเพียงข้ามคืน น้ำใจคนไทยที่ได้เห็นน้องในรายการ ต่างมีผู้ใจบุญยื่นมือบริจาคช่วยปลดหนี้ให้กับเป็นน้องได้เป็นผลสำเร็จ จนล่าสุดมียอดเงินเข้ามาช่วยเหลือครอบครัวน้องกว่า 4 ล้านบาทแล้ว
ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.วันที่ 20 มิ.ย.60 เมื่อน้องได้ดูรายการของตนเองร้องเพลงและหลับตาลงมาตั้งแต่กลางดึกขึ้นมายันรุ่งเช้าวันนี้ ทางญาติๆเพื่อนบ้าน และแม่ของน้องบิ๊ก นางสาวบัวผัน ชัยสรณ์ ปัจจุบันอายุ 36 ปี ได้ขอร้องให้น้องเดินทางกลับไปรักษาตัวที่รพ.อีกครั้ง หลังน้องเริ่มมีอาการเริ่มอ่อนแรง หายใจรวยริน ซึ่งน้องก็ยังบอกว่าไม่อยากเป็นภาระให้แม่อีกเลย น้องทำให้แม่ไม่เป็นหนี้สำเร็จก็พอแล้ว
แต่เมื่อมาพบว่ามีเงินในบัญชีมีผู้ใจบุญบริจาคช่วยเหลือเข้ามาเป็นจำนวนมากกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งในเวลาเย็นวัน(20มิ.ย.60)นี้เองก็จะทำการปิดบัญชีรับบริจาคช่วยน้องครั้งนี้แล้วด้วยเช่นกัน เพราะเพียงพอต่อการใช้หนี้ ทั้งยังจะไปช่วยเป็นทุนการศึกษาให้พี่วัย 15 และแม่ได้ใช้เลี้ยงครอบครัวได้ดีขึ้นอย่างพอเพียงแล้ว
ส่วนหนึ่งก็ยังจะสามารถนำไปช่วยเป็นค่ารักษาให้น้องบิ๊ก ไม่เป็นภาระให้กับแม่อีกได้ใหม่อีกครั้ง น้องบิ๊กจึงยอมที่จะเดินทางเข้าตรวจเพื่อรับการรักษาตัวที่รพ.ประอำเภอ หนองบัวระเหว ครั้งนี้
ซึ่งล่าสุดทางนายแพทย์เฉิดพันธุ์ภัทรพงษ์ศิลป์ ผอ.รพ.หนองบัวระเหว ได้พาน้องเข้าตรวจที่รพ.หนองบัวระเหว และพบว่าอาการน้องเริ่มทรุดลงมีอาการอ่อนแรงตามร่างกายและมีอาการปวดหัวหนักมากขึ้นจากผลกระทบเนื้อร้ายเชื้อมะเร็งในแกนสมองที่มีขนาดโตกว่า 3 ซม.แล้ว จึงได้นำตัวเพื่อเข้ารับการเอกเซรย์สแกนสมอง ให้พักผ่อนที่รพ.ไว้ก่อนจนน้องจะมีความพร้อมก่อน ที่จะช่วยนำส่งต่อไปยังรพ.รามาธิบดี กรุงเทพฯ ที่เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคมะเร็งให้กับน้องโดยด่วนต่อไป
ส่วนตัวน้องบิ๊ก เองครั้งนี้ ก็ได้ฝากกล่าวขอบคุณกับผู้ใจบุญทุกท่านในครั้งนี้เป็นอย่างสูงมากๆด้วย และเงินที่ได้มาจะได้นำไปช่วยปลดหนี้ให้แม่ก็จะได้นอนตายหลับแล้ว และยังทราบว่าเงินมีจำนวนมากเกินคาด ก็ขอให้แม่เก็บไว้เป็นทุนการศึกษาให้กับพี่วัย 15 ปี และเป็นทุนใช้จ่ายในครอบครัวที่ไม่ต้องลำบากอีก หลังหากที่ตัวเองจะต้องจากไปและไม่มีอะไรให้ห่วงอีกแล้ว

logoline