svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ทำไมข่าวลือวันน้ำท่วมโลก ไม่เคยหมดไป

05 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สารพัดจะอ้างคำทำนายโบราณมาบอกว่าวันสิ้นจะเกิดขึ้น หลายคนคงได้ยินข่าวทำนองนี้ฟังดูแล้วก็เป็นน่าตื่นเต้นไม่น้อย และหลายคนก็ถึงกับตื่นตระหนก

ล่าสุดส่งต่อกันทางไลน์ อ้างว่า NASA พยากรณ์ ปี 2560 กระแสน้ำอุ่นไหลย้อนสู่เอเชียทำให้ไทยมีฝนตกชุกเป็นพิเศษ กลางเดือนกันยายนนี้ กรุงเทพฯ และเมืองชายฝั่งจะมีน้ำท่วมใหญ่สูงขนาดตึก 4 ชั้น และจะมี Super Tornado ถล่มประเทศไทย
น้ำจะท่วมภาคกลางตอนล่างใน 3 สัปดาห์ จากเมฆฝนจานวนมากที่เคลื่อนตัวจากมหาสมุทรอินเดีย
เป็นเรื่องเป็นราวทีเดียวกับข่าวลืออ้างองค์การ NASA มันจั๊กจี้หูอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ที่ทนไม่ไหวต้องออกมาแถลงข่าวเป็นเรื่องเป็นราวใหญ่โต ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง และไม่ได้มีที่มาจากองค์การ NASA
และไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่ Super Tornado จะเกิดในไทย เพราะมีเทือกเขาตะนาวศรีขวางกั้น
แต่คำถามของผมก็คือทำไมข่าวลือวันน้ำท่วมโลก วันสิ้นโลก วันโลกแตก เดี๋ยวจะเกิดภัยพิบัติร้ายแรง ให้รักษาศีล 5 แล้วจะรอด
ข่าวลือเหล่านี้ ไม่เคยหมดไป จะบอกได้มั้ยว่าจริงๆ มันไม่ใช่ข่าวลือแต่มันแค่ยังไม่ถึงเวลา
คุณวันชัย ศักดิ์อุดมชัย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ยอมรับว่าภัยธรรมชาติทุกวันนี้รุนแรงขึ้น
สาเหตุก็เกิดจากฝีมือมนุษย์ ฝนตกหนักน้ำท่วมน้ำหลากเพราะป่าไม้ถูกทำลาย และการสร้างสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ
แต่การกระทำของมนุษย์ที่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมยังมีมากมายกว่านั้น
เอาเฉพาะในไทยที่มูลนิธิบูรณะนิเวศ รายงานสถานการณ์มลพิษปี 2558-2559 ปัจจุบันประเทศไทยมีโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ขนาดกลางสูงถึง 139,821 โรง
แต่ด้วยการจัดการไม่รัดกุมเพียงพอทำให้โรงงานอุตสาหกรรมกลายเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาแม่น้ำลำคลองเน่าเสีย มลพิษทางอากาศทั้งกลิ่นเน่าเหม็นของสารเคมี อากาศเสีย ฝุ่นละอองขนาดเล็กและขยะอุตสาหกรรม
บางส่วนจากรายงานสถานการณ์มลพิษในรอบปีที่ผ่านมา พบว่าเกิดเหตุน้ำมันรั่วถึง 11 ครั้งลักลอบทิ้งขยะอุตสาหกรรมจำนวน 32 พื้นที่ มีการคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าขยะจำนวน 35 พื้นที่ และเกิดไฟไหม้บ่อขยะ จำนวน 35 ครั้ง ยังไม่นับรวมจำนวนปลาที่ตายจากมลพิษเหล่านี้ด้วย
ในขณะที่ภาคการเกษตรก็ยังคงมีการใช้สารเคมี และทำลายป่าต้นน้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อรับกับการบริโภคที่ขยายตัวมากขึ้น
สังเกตุได้เลยครับ ว่าภัยธรรมชาติทุกวันนี้รุนแรงมากขึ้น และในวันสิ่งแวดล้อมโลกปีนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศนำสหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลงโลกร้อน Paris Agreement ว่าจะสั่นคอนความตั้งใจของประชาคมโลก ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยโลกของเรา
ส่วนประไทยก็ลงนามในข้อตกลงนี้ด้วยเหมือนกัน แต่ทำได้จริงมากน้อยแค่ไหน
ล่าสุดหัวหน้าหลักสูตรวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยรังสิต ดร.อาภา หวังเกียรติ ออกมาบอกว่าแม้ไทยจะลงนามลงการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามข้อตกลงปารีส แต่นโยบายกลับสวนทาง
เช่นการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกหรือ อีอีซี ที่โรงงานอุตสาหกรรมจะมากขึ้น และรัฐบาลยังคงเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน
ซึ่งเป็นตัวการในการปล่อยก๊าซคาร์บอนออกไซค์ และโรงไฟฟ้าขยะ ที่จะปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งยังมองไม่ออกว่าประเทศไทยจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างไร
ประชาคมโลกต่างเห็นพ้องต้องกันว่าโลกไม่ควรร้อนขึ้นไปมากกว่า 2 องศาเซลเซียล
เพราะร้อนเพียง 1 องศา โลกก็เปลี่ยนไปเยอะแล้ว น้ำแข็งขั้วโลกละลาย และกรุงเทพมหานคร เป็น 1 ใน 5 เมืองชายฝั่งที่ต้องจมน้ำ
ฉะนั้นข่าวลือวันสิ้นโลกต่างๆ นาๆ ถ้าจะเป็นข่าวจริงก็เพราะการกระทำของมนุษย์ และจะเป็นข่าวลวงถ้าพวกเราช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม

logoline