svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

หวิดปะทะ "พระ-ลูกวัด" ปมเงินบริจาค

05 มิถุนายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เชียงใหม่ - หวิดปะทะ ชาวบ้านบุกทวงถามเงินบริจาค -พระพุทธรูปเก่าแก่ อายุกว่า 500 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย จ.เชียงใหม่ หลังนัดชี้แจงข้อเท็จจริง แต่กับร่องหน โชคดีตำรวจห้ามทัพไว้ทัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบจากกรณี เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2560 ที่ผ่านมา คณะศรัทธาญาติโยม ในชุมชนวัดพระเจ้าเม็งราย ต.พระสิงห์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จำนวนร่วมครึ่งร้อย ได้ร่วมกันขับไล่พระมหาระวีวัฒน์ ธัมมวัฑฒโน อดีตเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย โดยมีป้ายเขียนข้อความเชิงขับไล่ติดอยู่เต็มวัด เนื่องจากชาวบ้านแจ้งว่า ตลอดเวลาที่ พระมหาระวีวัฒน์ ทำหน้าที่เจ้าอาวาสตั้งแต่ปี 2535 เป็นต้นมา ศรัทธาผู้เลื่อมใสวัดมีแต่ถดถอยลง และยอดเงินกฐิน 3 ปี ในช่วงปี 2553-2555 ปีละ3แสนบาท รวม 9 แสนบาทหายไปโดยไม่ได้นำไปพัฒนาวัด และไม่สามารถชี้แจงที่มาที่ไปได้ รวมทั้งมีเงินบริจาคที่จะสร้างห้องน้ำ จำนวนกว่า2 แสนบาท ถูกกดออกจากบัญชี โดยที่ไม่ได้มีการสร้างห้องน้ำตามเป้าหมาย และชาวบ้านเชื่อว่าพระพุทธรูปเก่าแก่ประจำวัด อายุกว่า 500 ปี เนื้อนาค หน้าตักประมาณ 9 นิ้ว ประเมินค่าไม่ได้ หายไปจากวัด โดยเมื่อสอบถามพระมหาระวีวัฒน์ ก็อ้างว่าไม่หายได้เก็บไว้จะนำออกมาพิสูจน์ให้ประชาชนภายหลังแต่ก็ไม่เคยนำออกมาให้เห็นตั้งแต่ ปี2555 เป็นต้นมา
ทางชาวบ้านก็ได้ร้องเรียนไปทางคณะสงฆ์ประจำตำบล และได้มีการตั้งคณะสงฆ์ตรวจสอบ โดยได้ถูกคณะสงฆ์เชียงใหม่สั่งพักการเป็นเจ้าอาวาสไม่มีกำหนดหลังถูกร้องเรียนตั้งแต่ ปี 2555 ซึ่งจวบจนปัจจุบันทางพระมหาระวีวัฒน์ อดีตเจ้าอาวาสก็ไม่เคยมีการชี้แจงหลักฐานของการใช้เงินหลักล้านบาทที่หายไป และพระพุทธรูปอายุ 500 ปีที่หายไปแต่อย่างใด โดยย้ายไปจำวัดอยู่ตามสำนักสงฆ์อื่นๆ ในจ.เชียงใหม่ กระทั่ง เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 คณะสงฆ์อำเภอเมืองเชียงใหม่ได้แต่งตั้งให้พระเทพมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดท่าตอน พระอารามหลวง อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะจังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้รักษาการเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย ที่ได้มาบูรณะและพัฒนาวัดจนมีศรัทธากลับมาเข้าวัดอีกครั้ง กระทั่งชาวบ้านได้มีการรวมตัวอีกครั้งเพื่อเรียกร้องให้มีการชี้แจงเงินบริจาค และพระพุทธรูปที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านที่หายไปเมื่อ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (5 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากผู้ที่ยังศรัทธาพระมหาระวีวัฒน์ ธัมมวัฑฒโน อดีตเจ้าอาวาสวัดพระเจ้าเม็งราย ว่าพระมหาระวีวัฒน์ จะขอนัดสื่อมวลชนแถลงข้อเท็จจริงกรณีถูกยึดวัด ที่วัดอุโมงค์สวนพุทธรรม ในเวลา 14.00น. แต่เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปถึง ก็พบว่ามีคณะศรัทธาพระมหาระวีวัฒน์ จำนวนกว่า 20 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ได้มานั่งรอพระมหาระวีวัฒน์ อยู่ภายในบริเวณวัด
กระทั่งต่อมาในเวลาไล่เลี่ยกัน ก็ปรากฏตัวกลุ่มคณะศรัทธาวัดพระเจ้าเม็งรายฝ่ายที่ต่อต้านและเคลือบแคลงในตัวพระมหาระวีวัฒน์ เดินทางมาในบริเวณเดียวกัน จำนวนกว่า 20 คน นำโดยนายจำลอง ภูมิวิเศษ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุเช่นกัน ซึ่งต่างฝ่ายต่างมีความเชื่อของตนเองและเกือบมีการวิวาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ ก็ได้เดินทางมาควบคุมสถานการณ์เช่นกัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างทยอยแยกย้ายกันกลับโดยไม่มีการทะเลาะวิวาทกันแต่อย่างใด ซึ่งจวบจนเวลา 15.00น. ก็ยังไม่มีการปรากฏตัวของ พระมหาระวีวัฒน์ แต่อย่างใด
ทางฝ่ายผู้ต่อต้าน นำโดยนายจำลอง ภูมิวิเศษ เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลมาว่าจะมีการแถลงข่าวโดยพระมหาระวีวัฒน์ ที่วัดอุโมงค์ฯ จึงได้พากันเดินทางมาเพื่อรับฟังเช่นกัน ไม่ได้มีเป้าหมายจะสร้างความแตกแยก หรือก่อความเดือดร้อนแต่อย่างใด เพราะต่างเป็นผู้ที่เคารพศรัทธาพระพุทธศาสนาเช่นกัน และต่างคนต่างก็อยู่ในชุมชนใกล้วัดพระเจ้าเม็งรายเคารพศรัทธาทำนุบำรุงวัดกันมา ไม่ต่ำกว่า 30-40ปี จึงอยากจะให้มีการชี้แจงยอดเงิน และพระที่หายไปเพื่อคลายความกังวลสงสัยของชาวบ้านเสียที
แต่เมื่อมาถึง ก็พบว่าไม่มีการปรากฏตัวของพระมหาระวีวัฒน์ แต่อย่างใด ซึ่งพวกตนก็ตั้งข้อสงสัยแต่แรกแล้วว่า เหตุใดเรื่องเกิดที่วัดพระเจ้าเม็งราย แต่กลับต้องมาแถลงข่าวกันที่วัดอุโมงค์ ซึ่งอยู่ห่างกันมากกว่า 5 กิโลเมตร หากมีเจตนาบริสุทธิ์แต่แรกก็ควรจะชี้แจงและแจกแจงการขาดหายของเงินตั้งแต่ 5 ปีก่อนแล้ว และเป็นไปตามที่ทุกคนคาดไว้ว่า ถูกหลอกให้เสียเวลาเปล่าประโยชน์ ไม่มีการปรากฏตัวของพระมหาระวีวัฒน์ อีกเช่นเคยผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วงเวลา 14.45น. สถานการณ์เริ่มบานปลาย หนึ่งในคณะศรัทธาวัดพระเจ้าเม็งราย ฝ่ายต่อต้านพระมหาระวีวัฒน์ ที่เป็นหญิงวัย45-50 ปี คนหนึ่ง เริ่มเกิดอารมณ์ปะทุ และส่งเสียงโวยวายเรียกร้องให้พระมหาระวีวัฒน์ ออกมาปรากฏตัว รวมทั้งนำเงินและพระพุทธรูปมาคืน ทั้งยังถามไปยังผู้ที่ยังศรัทธาในตัวพระมหาระวีวัฒน์ ว่าเหตุใดจึงยังคงศรัทธาในพระรูปนี้ นอกจากนั้นก็ยังชี้แนะว่า ในเมื่ออยู่เป็นเจ้าอาวาสเกือบ 30 ปี แต่วัดมีแต่เสื่อมโทรมก็ควรย้ายไปอยู่ในวัดป่าห่างไกลแต่แรก ซึ่งทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด จนเจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งต้องมาห้ามปราม จนเกิดการมีปากเสียงระหว่างประชาชนและเจ้าหน้าที่ตำรวจจนเกือบบานปลายอีกด้วย

logoline