"ประดิษฐ์" ยอมรับ ซื้อที่ดินจาก "อนันต์ อัศวโภคิน" ยันไม่เกี่ยวข้องกับวัดธรรมกาย!

นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ไทย แอ็กโกร เอ็กซเชนจ์ จำกัด (ตลาดไท) ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อ (นสพ.กรุงเทพธุรกิจ) ยอมรับว่า ได้เข้าไปซื้อที่ดินแปลงของบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จริง เหตุผลที่เข้าไปซื้อก็เพื่อกันคู่แข่งทางธุรกิจที่ดำเนินธุรกิจเดียวกับตลาดไท
โดยเริ่มแรกที่เข้าไปซื้อก็ได้มีการจ่ายเงินมัดจำไปประมาณ 65 ล้านบาท ภายใต้ข้อตกลงในการซื้อที่ดินไร่ละ 10 ล้านบาท เนื้อที่กว่า 40ไร่ ปรากฎว่าหลังจากมีการจ่ายมัดจำไปแล้วไม่สามารถโอนที่ดินแปลงดังกล่าวได้ เพิ่งมาทราบทีหลังว่ามีปัญหาอยู่กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แต่ในที่สุดก็สามารถเคลียร์ออกมาได้ และเพิ่งจะมีการโอนที่ดินเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในส่วนของการซื้อขายที่ดินแปลงของ บริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ได้มีการจ่ายเงินผ่านให้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ไปแล้ว โดยราคาที่เสนอซื้อถือเป็นราคาตลาดที่มีการซื้อขายปกติในช่วงประมาณปี 2554 ตนไม่ได้ไปกดราคารับซื้อแต่อย่างใด เหตุผลที่ต้องการซื้อที่ดินแปลงดังกล่าว ก็เพื่อจุดประสงค์ในการดำเนินธุรกิจคือต้องการขยายพื้นที่ของตลาดไทเท่านั้น
"ผมซื้อที่ดินแปลงนี้ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับวัดพระธรรมกาย ต้องการซื้อเพื่อกันคู่แข่งทางธรกิจเท่านั้น ผมทำธุรกิจไม่ได้อะไรเป็นอย่างอื่น ราคาที่เสนอซื้อถือว่าเหมาะสม มีการจ่ายเช็คให้ถูกต้อง" นายประดิษฐ์ ระบุ
ส่วนบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 จะขายที่ดินให้กับใครด้วยหรือไม่ ตนไม่ทราบ รู้แต่เพียงว่าเจ้าของบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 เดิมเป็นผู้ที่มีการครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นพันไร่ และเป็นเจ้าของตลาดไทดั้งเดิมก่อนที่ตนจะเข้าไปรับซื้อมาบริหารจากบงล.ทิสโก้ เมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ที่ดินบริเวณดังกล่าวเมื่อก่อนต้องยอมรับว่าเป็นที่ดินผืนใหญ่มาก เคยมีการเสนอขายมาตลอดแต่อาจจะไม่มีคนสนใจในสมัยนั้น จากนั้นเจ้าของมาก็ตัดขายเป็นแปลงๆ
นายประดิษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากการซื้อที่ดินจากบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 เนื้อที่กว่า40ไร่แล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันตนยังได้ซื้อที่ดินแปลงของนายอนันต์ อัศวโภคิน ประธานและกรรมการผู้จัดการบริษัทแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน)เนื้อที่กว่า40ไร่ เช่นกันในช่วงเวลาเดียวกันโดยมีนายหน้ามาเสนอขาย และได้ตกลงซื้อในราคาไร่ละ10ล้านบาทเช่นกัน
"ตอนแรกที่มีนายหน้ามาเสนอขายผมก็ยังไม่รู้ว่าเป็นที่ดินของนายอนันต์ เหตุผลที่ยอมซื้อที่ดินแปลงของนายอนันต์ก็เพราะต้องการกัันคู่แข่งทางธุรกิจเหมือนกัน เพราะผมต้องการที่ิดินผืนใหญ่ในการขยายตลาดไท แต่เพิ่งว่ารู้ว่าที่ดินเป็นของนายอนันต์ก็ตอนที่จะจ่ายเงิน ตอนนั้นยังไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวโยงอะไรกับวัดธรรมกาย"
นายประดิษฐ์ กล่าวในส่วนของการซื้อที่ดินแปลงของนายอนันต์ไม่ได้มีปัญหาอะไรนั้น ตนเป็นคนเซ็นต์จ่ายเช็คให้กับนายอนันต์ 3 ใบตามราคาที่ซื้อขายไร่ละ10 ล้านบาท และจ่ายเช็คภาษีให้กระทรวงการคลังอีก 1 ใบ"ที่ดินทั้ง2แปลงผมได้ซื้อมาในช่วงเวลาเดียวกันน่าจะประมาณปี2554"
นายประดิษฐ์ กล่าวด้วยว่า ตนต้องการดำเนินธุรกิจตลาดไทให้ครบวงจรโดยเนื้อที่ของตลาดไทปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 400ไร่ หากรวมกับที่ดินอีก 2 แปลงที่ซื้อเข้ามาใหม่อีกเกือบ100 ไร่ ก็จะทำให้ตลาดไทมีพื้นที่เพิ่มขึ้นตอนนี้เกือบ500 ไร่ จากที่ดินของบริษัทเอ็ม-โฮม เอสพีวี 2 ดั่งเดิมบริเวณนั้นจะมีอยู่ประมาณ 1,000 ไร่