เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 เมษายน 2560 นายมาโนช วงษ์สุรีรัตน์ หน.อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม จ.ตรัง ได้รับแจ้งจากเรือนำเที่ยวว่า พบเห็นพะยูน สัตว์ป่าสงวนชื่อดังประจำ จ.ตรัง ลอยตายระหว่างช่องเกาะมุก กับเกาะกระดาน จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เดินทางไปตรวจสอบพบว่า เป็นพะยูน เพศเมีย ความยาว 2.59 เมตร ได้ตายลงโดยไม่ทราบสาเหตุ จึงประสานไปยัง รศ.สพญ.ดร.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเตรียมเดินทางลงมาเพื่อผ่าพิสูจน์ซาก ณ อาคารคลีนิกปฎิบัติการสัตว์ทะเลหายาก อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม โดยเบื้องต้นได้นำซากพะยูนมาใส่น้ำแข็งรอผลการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริงต่อไปแล้ว
ขณะที่นายรุ่งโรจน์ เบ็นหมูด ชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง ได้พบซากพะยูนอีกตัว บริเวณหน้าเกาะลิบง ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง จึงได้ร่วมกับชาวประมงพื้นบ้าน ได้ลากซากพะยูนมาขึ้นเรือบริเวณท่าเรือหาดยาว พบว่าเป็นซากลูกซากพะยูน น้ำหนักประมาณ 20 กิโลกรัม มีบาดแผลบริเวณลำตัว คาดว่าได้เกิดหลงฝูงออกจากแม่พะยูน เข้าไปติดอวนประมงของชาวบ้านทำให้ขาดอากาศหายใจและตายดังกล่าว
อย่างไรก็ตามชาวประมงพื้นบ้านได้เล่ากับผู้สื่อข่าวว่า แม้ว่าทางอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ได้มีการติดตามดาวเทียมติดตามพะยูนในทะเลตรัง ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่ปรากฏว่ายังมีพะยูนตายในทะเลตรังแบบรายวัน ทั้งที่ชาวประมงพื้นที่ในพื้นที่ได้มีการคัดค้านการติดตั้งดาวเทียมที่ตัวพะยูนมาตลอด เพราะเป็นการทรมานพะยูน ล่าสุดชาวประมงพื้นบ้านได้ยื่นหนังสือคัดค้านต่อจังหวัดแล้ว