ผบ.ตร.ระบุ การซัดทอดผู้ว่าฯ ซื้อกามเด็กสาว ใครก็อ้างได้

เมื่อถามถึงกรณีที่แม่ของเหยื่ออ้างถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วย นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ บอกว่า ก็ต้องดูพยานหลักฐานว่าเป็นไปตามจริงที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างหรือไม่ เพราะการกล่าวอ้างใครๆก็สามารถทำได้ โดยเรื่องนี้ได้มอบหมายให้กับทาง บช.ภ.5 ไปดูแลอย่างใกล้ชิดและรอบคอบ และต้องขอความร่วมมือให้ข้อมูล เพราะท่านก็มีตำแหน่งถึงผู้ว่าฯ ส่วนข้าราชการตำรวจที่ถูกพาดพิงเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์นั้นตนมองว่าเป็นเรื่องปัจเจกบุคคล ไม่กระทบองค์กร ยืนยันจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าพบตำรวจที่ไม่ดีก็ต้องดำเนินการ ไม่ปกป้องอยู่แล้ว ซึ่งในส่วนนี้ก็ได้มีการมอบนโยบายไปหมดแล้วในทุกๆเรื่อง ที่ไม่ใช่เฉพาะปัญหาค้ามนุษย์นภาคเหนืออย่างเดียว ตนเชื่อว่าตำรวจในพื้นที่ก็มีข้อมูลเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์ เพียงแต่เพิ่งมาปรากฏเป็นข่าวภายหลัง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวอีกว่า ส่วนจะถือโอกาสนี้เดินหน้าปราบปรามการค้ามนุษย์ทั่วประเทศเลยหรือไม่นั้นก็ต้องดูเป็นพื้นที่ไป สำหรับกรณีที่คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ด.ต.ยุทธชัย เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ แต่สั่งยุติการสืบสวนไปก่อนนี้ แต่สุดท้ายศาลออกหมายจับนั้น ก็มีการตั้งกรรมการสืบสวนแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาปกติ ถ้าเป็นเรื่องที่มีข้อสงสัยอยู่ก็จะส่งชุดทำงานจากส่วนกลางไปตรวจสอบ ซึ่ง พล.ต.อ.ศรีวราห์ สั่งให้รื้อใหม่แล้ว ส่วนการพาดพิงข้าราชการมากกว่า 10 คน รวมทั้งในและต่างประเทศ ข้อเท็จจริงยังไม่ทราบ แต่เมื่อดำเนินการไปแล้วพยานหลักฐานถึงใครก็ดำเนินการ อย่างไรก็ตามทาง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ได้มีการกำชับตนโดยตรง และได้เดินหน้าปราบปราม ทั้งนี้ไม่กังวลว่าจะกระทบการจัดอันดับสถานการณ์การค้ามนุษย์(เทียร์) และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน เพราะการจัดอันดับทิปรีพอร์ต หรือเทียร์ นั้น ดูเรื่องความจริงใจในการแก้ปัญหาเป็นหลัก ซึ่งที่ผ่านมานายกฯและรองนายกฯก็พอใจกับการแก้ปัญหาเรื่องค้ามนุษย์ในทุกมิติของตำรวจ มั่นใจในการแก้ปัญหา 100 เปอร์เซ็นต์
ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การพิจารณาดำเนินคดีตำรวจระดับรองผู้กำกับการ(รองผกก.)ถึงผู้บังคับหมู่ 3 ราย ในพื้นที่ที่มีการพาดพิงว่าเกี่ยวข้องซื้อบริการนั้น ยังอยู่ระหว่างดำเนินการ และยังไม่มีอะไรงานมายังตน แต่ได้สั่งการไปยัง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงและสอบสวนทางวินัยตำรวจทั้ง 3 นายแล้ว และสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีในเบื้องต้นมีพยานหลักฐานระดับหนึ่ง ทั้งพยานบุคคล คือ เด็ก แม่ของเด็ก และคนนอกที่รู้เห็น โดยได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 5 สืบสวนสอบสวนแล้วว่า ตำรวจทั้ง 3 นายเข้าไปเกี่ยวข้องอย่างไร จากหลักฐานที่ตนมีล่าสุดเมื่อวานนี้(25 เม.ย.)เพียงพอต่อการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามกฎ ก.ตร.เท่านั้น แต่ยังไม่เพียงพอต่อการขออนุมัติหมายจับ 
"ขณะนี้ตำรวจภาค 5 กำลังสืบสวนหาหลักฐานอยู่ ส่วนจะมีนายตำรวจหรือข้าราชการรัฐคนอื่นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนภูธรภาค 5 ตรวจสอบแล้ว คดีนี้ไม่เร่งรัด หรือกำหนดกรอบเวลา ต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน ส่วนประเด็นการติดสินบนให้เงินกับผู้เสียหายเพื่อให้ยอมความนั้น เป็นการกล่าวอ้างของผู้เสียหาย เพราะจนถึงขณะนี้ยังไม่มีตัวเงิน หรือพยานหลักฐานที่ชัดเจน" พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว