เตรียมร่าง พรฏ.เวนคืนที่ดิน สร้าง-ขยายถนนเลี่ยงเมืองสระแก้ว 867 ล้าน

 เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่ข้อมูลเรื่อง ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสระแก้ว และตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... ซึ่งกระทรวงคมนาคม ได้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ และเห็นชอบในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสระแก้ว และตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้  โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสระแก้ว และตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท สาย ก ตามโครงการผังเมืองรวมเมืองสระแก้ว  

 โดยลักษณะของโครงการก่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท สาย ก ตามโครงการผังเมืองรวมเมืองสระแก้ว เป็นโครงการก่อสร้างและขยายถนนขนาด 4 ช่องจราจร ชนิดผิวจราจรเป็นถนนลาดยาง ช่องจราจรกว้างช่องละ 3.25 เมตร ช่องจอดรถกว้างช่องละ 2.40 เมตร ทางเท้ากว้างข้างละ 4.00 เมตร มีเกาะกลางแบบปลูกหญ้ากว้าง 4.20 เมตร เขตทางกว้าง 30 - 40 เมตร ความยาวถนนประมาณ 12.795 กิโลเมตร มีพื้นที่ถูกเวนคืนจำนวน 702 แปลง จำนวนกว่า 206 ไร่  มีอาคารสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืนประมาณ 117 หลัง โดยแบ่งเป็นอาคารคอนกรีต 1 ชั้น จำนวน 80 หลัง อาคารคอนกรีตครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น จ้านวน 22 หลัง อาคารคอนกรีต 2 ชั้น จ้านวน 15 หลังใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการประมาณ 867.4 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบประมาณในการเวนคืน 100.3 ล้านบาท และงบประมาณในการก่อสร้าง 767 ล้านบาท 
 ทั้งนี้ กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการ จัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผู้มีส่วนได้เสียกับโครงการก่อสร้างถนนสายดังกล่าว ตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ. 2548 แล้ว ดังนั้น เพื่อให้การสร้างทางหลวงชนบทตามโครงการดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานที่กำหนด และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเพื่อทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน จึงเห็นควรให้มีการตราพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลสระแก้ว และตำบลท่าเกษม อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว พ.ศ. .... จึงได้มีการเสนอมาเพื่อดำเนินการ 

 เมื่อพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว มีผลบังคับใช้ตามกฎหมายแล้ว หากผู้ถูกเวนคืนไม่พอใจราคาหรือจำนวนเงินค่าทดแทนที่ราชการกำหนดให้ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ รวมถึงใช้สิทธิในการฟ้องคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้ต่อไป  ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับการพิจารณาก่อสร้างทางสายต่าง ๆ ว่าขอให้กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวงชนบท) ให้ความสำคัญกับการพิจารณาผลกระทบด้านการระบายน้ำภายหลังจากการก่อสร้างด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาเรื่องการระบายน้ำในพื้นที่บริเวณดังกล่าวในอนาคต 
 สำหรับเส้นทางดังกล่าว เป็นถนนเส้นสีชมพู (ตามภาพ) จุดเริ่มต้นอยู่บริเวณทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 33 ตรงข้าม บ.แลตตาซอย แนวถนนโค้งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ตัดผ่านถนนสายบ้านลัดกระสังข์ (ถนนเทศบาล 2) เชื่อมกับถนน กรป.กลาง (ถนนสายสระแก้ว) ด้านหลังสวนสาธารณะสระแก้วสระขวัญ บริเวณ กม.1+418 ไปตัดกับถนนเทศบาล 6 บริเวณ กม.3+385 ตัดกับถนนเทศบาล 8 ที่กม. 3+645 ตัดกับถนนเทศบาล 10 ที่ กม.4+058 บริเวณทางแยกโรงเรียนดาราสมุทร แนวถนนตรงไปตัดกับถนนเทศบาล 18 ที่กม. 5+270 บริเวณอู่สกุลการช่าง (ทางแยกโรงงานปลาทู) ตัดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 317 บริเวณ กม.7+067 (บริเวณบริษัทสระแก้วคอนกรีตโปรดักส์ จำกัด) จากนั้นเป็นแนวถนนตัดใหม่ ไปตามพื้นที่ทุ่งนา ตัดกับถนนบ้านขอนขวาง บริเวณ กม.ที่ 11+744 ไปสิ้นสุดโครงการที่บริเวณร้านเจ๊สมต้มเลือดหมู (ตรงข้ามประตูทางเข้าศูนย์ราชการ) 

 อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างรอการสำรวจการเวนคืนเพิ่มเติมจากทางราชการ และการประกาศราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินฯ จึงจะสามารถทราบแน่ชัดว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจำนวน 702 แปลง มีใครบ้าง และคาดว่า โครงการนี้จะเริ่มก่อสร้างเมื่อประกาศพระราชกฤษฎีกาเวนคืน และเวนคืนที่ดินเสร็จเป็นที่เรียบร้อย จึงจะเริ่มก่อสร้างโครงการได้ ซึ่งตามแผนคาดว่า ไม่เกินประมาณปี 2562